ส่องพิมพ์เขียว กม.กสทช. ฉบับใหม่

ส่องพิมพ์เขียว กม.กสทช. ฉบับใหม่

ตามที่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว เพื่อเสนอต่อวุฒิสภาพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 136 นั้น ในคราวประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 21 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบด้วยกับผู้แทนราษฎร และได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมายังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อดำเนินการต่อไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 137 ซึ่งมีสาระสำคัญ ประกอบด้วย

ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จำนวน 7 คน มีคุณสมบัติ ไม่มีลักษณะต้องห้าม มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ ได้แก่ ด้านกิจการกระจายเสียง ด้านกิจการโทรทัศน์ ด้านกิจการโทรคมนาคม ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านการส่งเสริมเสรีภาพของประชาชน ด้านละ 1 คน และด้านอื่นๆ ที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. จำนวน 2 คน และให้เลขาธิการ กสทช. เป็นเลขานุการ กสทช.

ทั้งนี้ ก่อนประกาศรับสมัครให้คณะกรรมการสรรหา กำหนดด้านที่จะดำเนินการสรรหาเป็นกรรมการ และกำหนดลักษณะเฉพาะที่แสดงให้เห็นถึงความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้านนั้น ซึ่งผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการต้องมีลักษณะเฉพาะ และลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ 1.รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดีผู้พิพากษารองอธิบดีศาลปกครองชั้นต้น หรือรองอธิบดีอัยการ 2.เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการพลเรือน พนักงานในหน่วยงานอื่นของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองหัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ระดับกรมขึ้นไป หรือเป็นหรือเคยเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองหัวหน้าของหน่วยงานอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคลหรือรัฐวิสาหกิจ หรือเทียบเท่า 3.เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตำรวจที่มียศตั้งแต่พลตรีพลเรือตรี พลอากาศตรี หรือพลตำรวจตรีขึ้นไป

Advertisement

4.ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ขึ้นไป 5.เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ในตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองกรรมการผู้จัดการในบริษัทมหาชนจำกัดที่มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท 6.มีประสบการณ์ด้านการบริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม มาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี 7.มีประสบการณ์ทำงานในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค หรือด้านส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี และ 8.มีประสบการณ์ทำงานในด้านที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ตามที่คณะกรรมการสรรหากำหนดมาแล้วรวมกันไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยการดำเนินการสรรหาให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ประกาศการเปิดรับสมัคร อย่างน้อย 30 วันติดต่อกัน เมื่อเสร็จสิ้นให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาคัดเลือกผู้สมัคร ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะเป็นกรรมการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

ขณะเดียวกัน ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องได้รับคะแนน 2 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของคณะกรรมการสรรหา ถ้าไม่มีบุคคลใดได้รับคะแนนเสียง หรือมีแต่ยังไม่ครบจำนวนที่จะต้องสรรหาให้มีการลงคะแนนใหม่สำหรับผู้ได้คะแนนไม่ถึง 2 ใน 3 ถ้ายังไม่ครบตามจำนวนให้มีการลงคะแนนอีกครั้ง ในการณีการลงคะแนนครั้งหลังนี้ยังได้บุคคลไม่ครบจามจำนวนที่จะต้องสรรหา ให้ดำเนินการสรรหาใหม่สำหรับจำนวนที่ขาดอยู่

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาหรือผู้ได้รับการคัดเลือก ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด และเมื่อคณะกรรมการสรรหาดำเนินการคะดเลือกได้บุคคลใดแล้ว ให้เสนอรายชื่อไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยผู้ได้รับคัดเลือกต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา สำหรับกรณีที่วุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการคัดเลือกรายใด ให้ดำเนินการสรรหาบุคคลใหม่แทนผู้นั้น แล้วเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป โดยผู้ซึ่งไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาจะเข้ารับการสรรหาในครั้งใหม่ไม่ได้

Advertisement

ทั้งนี้ กรณีที่เป็นการเลือกกรรมการใหม่ทั้งคณะ หรือเป็นการเลือกกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง โดยมีประธานกรรมการพ้นจากตำแหน่ง และมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึง 4 คน เมื่อมีผู้ได้รับเลือกจากวุฒิสภาไม่น้อยกว่า 5 คนแล้ว หรือเมื่อจำนวนผู้ได้รับเลือกรวมกับกรรมการ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่รวมแล้วไม่น้อยกว่า 5 คน ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจัดให้ผู้ได้รับเลือก หรือผู้ได้รับเลือกและกรรมการซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ แล้วแต่กรณี ประชุมร่วมกันเพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ แล้วแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบ เพื่อแจ้งนายกรัฐมนตรี นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง และเมื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้ว ให้กรรมการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจได้ โดยให้ถือว่า กสทช. ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ และให้ดำเนินการสรรหาเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนที่ต้องสรรหาต่อไปโดยเร็ว ซึ่งกรรมการที่ได้รับเลือกจากการสรรหาเพิ่มเติมตาม ให้มีวาระการดำรงตำแหน่ง เท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ แต่ในกรณีที่วาระที่เหลืออยู่ไม่ถึง 3 ปี ให้ผู้นั้นมีสิทธิได้รับการแต่งตั้งอีกวาระหนึ่งได้

ขณะที่ กรรมการ กสทช. ซึ่งดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่ พ.ร.บ. นี้ใช้บังคับ ยังคงดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และในกรณีที่มีตำแหน่งว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้คณะกรรมการ กสทช. ประกอบด้วย กรรมการเท่าที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีคณะกรรมการ กสทช. ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ.นี้ และกรณีที่กรรมการ กสทช. ซึ่งดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ ได้ดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่มาแล้วเป็นเวลาไม่ถึง 3 ปี ให้ผู้นั้นเป็นผู้มีสิทธิได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ กสทช. อีกวาระหนึ่งได้

โดยให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเริ่มดำเนินการจัดให้มีการสรรหากรรมการ กสทช. ตามองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.นี้ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ พ.ร.บ. นี้ใช้บังคับ

ทั้งนี้ รายงานข่าวจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แจ้งว่า การประชุมวุฒิสภา สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 22 และ 23 กุมภาพันธ์ 2563 มีการขอขยายเวลาการพิจารณาของคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. ออกไปอีก 8 วัน จากเดิมวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นวันที่ 3 มีนาคม 2564 ขณะที่ ประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 พ.ศ.2563 จะสิ้นกำหนดเวลา 120 วัน ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image