นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลการสำรวจวามเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมกราคม 2559 ปรับตัวลดลงทุกรายการ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 75.5 จากเดือนก่อนอยู่ที่ 76.1ถือเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันลดลงที่ระดับ 55.3 จากเดือนก่อนอยู่ที่ 55.8 และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตลดลงที่ระดับ 83.5 จากเดือนก่อนอยู่ที่ 84.3
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับลดลงที่ระดับ 64.4 จากเดือนก่อนอยู่ที่ 65.1 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานปรับลดลงที่ระดับ 70.3 จากเดือนก่อนอยู่ที่ 70.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตปรับลดลงที่ระดับ 91.7 จากเดือนก่อนอยู่ที่ 92.4
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ดัชนีปรับลดมาจากความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจไทย และสถานการณ์ความขัดแย้งของการเมืองระหว่างประเทศ การปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจไทยของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเหลือ 3.7% จากเดิม 3.8% รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรยังตกต่ำตามราคาน้ำมัน และภัยแล้ง
“แม้ว่าเดือนมกราคมปีนี้ ดัชนีฯ จะปรับลดลงทุกรายการเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน แต่ดัชนีฯ เดือนนี้ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยดัชนีฯ ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีที่แล้ว แสดงว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจยังมีทิศทางและแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอยู่ การปรับลดลงของเดือนนี้อาจเป็นการปรับลดชั่วคราว ต้องติดตามการปรับตัวเดือนต่อไปอย่างใกล้ชิด และเพื่อดึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ดีขึ้นระยะยาว รัฐบาลควรจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเม็ดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจเพิ่มอีกในไตรมาส 1 และ 2 ปีนี้ ก่อนที่จะมีเมกะโปรเจ็กต์ออกมา หากไม่ดำเนินการความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาจจะปรับลดลงอีก อย่างไรก็ตามศูนย์พยากรณ์ฯ ยังประมาณการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ตามเดิมไว้ที่ 3.5-4%”นายธนวรรธน์กล่าว
