“THIP” โชวผลงานปี 63 กวาดยอดขายกว่า 3 พันล. เผยปีนี้เล็งขยายกำลังการผลิต พร้อมบุกตลาดต่างประเทศ

“THIP” โชวผลงานปี 63 กวาดยอดขายกว่า 3 พันล. เผยปีนี้เล็งขยายกำลังการผลิต พร้อมบุกตลาดต่างประเทศ

นางพจนารถ ปริญภัทร์ภากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ THIP ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์คุณภาพระดับสากล เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2563 ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ที่ส่งผลต่ออุปสงค์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563ให้ลดต่ำกว่าปกติ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังนานาประเทศได้ปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้คำสั่งซื้อจากลูกค้ากลับมาอย่างต่อเนื่อง และพบว่า กลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ได้หลายครั้งยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดต่อเนื่องจากการใช้ระหว่างอยู่บ้านในช่วงล็อกดาวน์ เนื่องจากลูกค้าใส่ใจสุขอนามัยมากขึ้น สะท้อนในผลประกอบการปี 2563 มีกำไรสุทธิที่ดี อยู่ที่ 347.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 103.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 42.2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 244.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 4.35 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 3.06 บาทต่อหุ้น ขณะที่ รายได้รวมจากการขายอยู่ที่ 3,196.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.6% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมจากการขาย 3,025.9 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นคิดเป็น 23.52% ต่อยอดขาย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 19.87% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ถุงเพิ่มขึ้น 9.2% และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มขึ้น 5.3% จากความต้องการของลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องสุขอนามัย อีกทั้งพฤติกรรมที่มีการใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทฯ พยายามขยายฐานตลาดโดยเฉพาะลูกค้าใหม่แถบอเมริกา ทำให้คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ มีการบริหารต้นทุนที่ดี อันเป็นผลมาจากราคาวัตถุดิบโลกมีการปรับตัวลดลง และการปรับปรุงสายการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

นางพจนารถ กล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจปี 2564 บริษัทฯ คาดว่าจะยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง จากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และการสร้างแบรนด์ยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัทฯ โดยการมุ่งผลักดันแบรนด์ของบริษัทเอง (Own Brand) ภายใต้แบรนด์ SUN ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยมีการทำการตลาดผ่านหลายช่องทาง ทั้งทาง Social Media, เว็บไซต์ www.sunmumshopping.com และงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมการบริโภคในรูปแบบต่างๆ

VIDEO CONTENT AVERTISEMENT

“กลยุทธ์สำคัญของบริษัทยังคงเป็นเรื่องของการสร้างแบรนด์ บริษัทแบ่งกลุ่มแบรนด์เป็น 3 กลุ่มหลัก เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่างกัน ประกอบด้วย 1. SUNMUM ผู้นำสินค้าแม่และเด็ก เตรียมปรากฎการณ์ใหม่ สำหรับคุณแม่เพื่อดูแลลูกน้อย ด้วยนวัตกรรมใหม่ ตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ ที่เน้นความสะดวกสบายในการดูแลลูกรัก ทั้งในและนอกบ้าน 2.SUNECO STRAW หลอดดูดน้ำพกพา สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคนิวนอร์มอล เน้นความสะอาดและสุขอนามัยในการใช้อุปกรณ์ส่วนตัว สู่หลอดใช้ซ้ำแบบพกพาได้ / รักษ์โลก และ 3. SUNBIN ถุงขยะรักษ์สิ่งแวดล้อม ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 100% เจาะกลุ่มไฮเปอร์มาร์เกต เช่น บิ๊กซี โลตัส” นางพจนารถ กล่าวและว่า สำหรับช่องทางออนไลน์ เน้นเพิ่มความสะดวกสบาย ซื้อง่าย พร้อมขยายช่องทางการขายออนไลน์สู่แพลตฟอร์มอื่นๆ อาทิ Line@ Facebook Page เป็นต้น ซึ่งในปี 2563 ที่ผ่านมาช่องทางออนไลน์เติบโตถึง 300% โดยปี 64 เน้น Marketplace ออนไลน์เต็มรูปแบบ เจาะกลุ่มพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนิวนอร์มอล

นางพจนารถกล่าวว่า ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก (SUN Mum&Baby) รวมทั้งมีแผนขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น บริษัทมีความสนใจที่จะขยายตลาดในประเทศเวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และอินเดีย เพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ตั้งสำนักงานตัวแทนจำหน่ายในประเทศดังกล่าวแล้ว รวมทั้งสหรัฐอเมริกาและในโซนยุโรป หลังแนวโน้มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแม่และเด็กขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์พลาสติกเติบโตด้วย ขณะเดียวกันก็จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 20% เพื่อรองรับดีมานด์ของลูกค้าในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรองรับการทำตลาดลูกค้าใหม่ สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image