ส.อ.ท.จี้รัฐปรับโครงสร้างเศรษฐกิจรับโลกเปลี่ยน จับตาแผนฉีดวัคซีน ทำสำเร็จคือแสงสว่างปลายอุโมงค์ของประเทศ
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยปี 25641 ว่า ภายหลังประเทศไทยเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ และมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน มาตรการกระตุ้นใช้จ่าย และล่าสุดประกาศว่าจะมีการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยรวม 2 ล้านโดส ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนนี้ ให้กับกลุ่มบุคลากรการแพทย์ ผู้ป่วย ผู้สูงอาย พร้อมระบุว่าช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน จะมีการฉีดให้กับประชาชนทั่วไป เหล่านี้คือ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คาดว่าจะช่วยทำให้เศรฐกิจไทยฟื้นกลับมาได้ระดับหนึ่ง
นายเกรียงไกร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังเกิดโควิด-19 จะเกิดนิว นอร์มอล โลกจะไม่เหมือนเดิม การใช้ชีวิต เทคโนโลยี การผลิต ซัพพลายเชนทั้งโลกจะเปลี่ยนไป รวมถึงโครงสร้างเศรษฐกิจไทย หลายอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบเชิงลบ เพราะค่าแรงสูง แรงงานวัยทำงานลดลง เป็นสังคมสูงอายุ ดังนั้นไทยต้องเร่งปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ การพึ่งพาโครงสร้างเก่าทั้งการพึ่งกาการส่งออกมากเกือบ 70% การพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ 12% หรือ 40 ล้านคน เมื่อโควิดมาทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบรุนแรงมาก ตัวเลขเศรษฐกิจลดลงมากที่สุดในภูมิภาค
“หลายคนเชื่อว่าถ้ามีวัคซีนจะทำการท่องเที่ยวกลับมา เพราะนักท่องเที่ยวมีความเก็บกบ แต่ก็ไม่มีใครการันตีว่าวัคซีนจะได้ควบคุมได้หรือไม่ เพราะโควิดมีการกลายพันธุ์ได้ อาทิ ในประเทศแอฟริกา ดังนั้นการฉีดจึงไม่รู้ว่าจะควบคุมได้จริง หรือต้องฉีดใหม่หากมีการกลายพันธุ์ ประกอบการส่วนตัวเชื่อว่าแม้จะมีวัคซีนแต่ทั่วโลกจะระมัดระวังในการเดินทาง การท่องเที่ยวที่พึ่งพาต่างชาติจึงอาจไม่เหมือนเดิม ดังนั้นไทยต้องพึ่งตัวเอง ปรับโครงสร้าง เอาเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ปิดจุดอ่อนของไทย และเดินหน้าอุตสาหกรรมเป้าหมายตามที่ประกาศนโยบายไว้”นายเกรียงไกรกล่าว
