‘พิพัฒน์’ แย้มหารือ ‘คลัง’ ดูดี หลังถกข้อเสนอเอกชน ‘ซอฟต์โลน-กองทุนท่องเที่ยว’

‘พิพัฒน์’ แย้มหารือ ‘คลัง’ ดูดี หลังถกข้อเสนอเอกชน ‘ซอฟต์โลน-กองทุนท่องเที่ยว’

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าข้อเรียกร้องของภาคเอกชนท่องเที่ยว อาทิ การช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) กองทุนเยียวยาและพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะ โดยที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งผลตอบรับหลังจากหารือร่วมกันแล้วเสร็จ ถือว่าเป็นที่น่าพึ่งพอใจ โดยเฉพาะกองทุนท่องเที่ยว ที่คลังกำลังพิจารณาว่าจะออกมาในรูแบบใด จึงจะมีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนงบประมาณที่จะใช้ในการจัดตั้งหรือรายละเอียดต่างๆ คาดว่าจะต้องรอหลังจบการอภิปรายรัฐบาลก่อน หลังจากนั้นน่าจะมีการหารือร่วมกันและมีความชัดเจนอีกครั้ง

“จากการที่ได้หารือร่วมกับคลัง ผลตอบรับถือว่าออกมาดูดีมาก หลังจากนี้คงต้องศึกษากระบวนการและหลักปฏิบัติ ว่าจะสามารถทำแบบใดได้บ้าง ซึ่งส่วนนี้ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของคลัง เพราะเป็นเจ้าของเงินงบประมาณ ที่จะนำมาใช้ในโครงการต่างๆ ที่เอกชนเรียกร้องไว้ รวมถึงการขยายการใช้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ผ่านการเพิ่มสิทธิประโยชน์ หรือความพิเศษเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นเครื่องมือกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้เสนอขอกันวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ไว้ก่อน 5 หมื่นโดส เพื่อนำมาฉีดให้กับภาคการท่องเที่ยวก่อน โดยเฉพาะผู้ประกอบการและแรงงานที่จะเข้าร่วมเป็นแอเรียควอรันทีน หรือสถานที่กักกันเชื้อไวรัสของรัฐบาล เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาในช่วงไตรมาส 3-4 ปี 2564 ซึ่งขณะนี้แนวคิดการทำแอเรียควอรันทีนไม่ได้หยุดไปตามการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ แต่ยังขับเคลื่อนไปตามกระบวนการที่วางไว้ ซึ่งได้ผ่านการเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดวิด-19 (ศบค.) ชุดเล็กแล้ว หลังจากนี้จะเข้าศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาต่อไป

“การที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ออกมาปรับลดเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศทั้งปีนี้เหลือ 3.2 ล้านคน จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะมี 5 ล้านคน เบื้องต้นมองว่าตัวเลขคาดการณ์จะเป็นไปแบบมากกว่าหรือน้อยกว่าจำนวนดังกล่าว ขึ้นอยู่กับการกระจายฉีดวัคซีนของต่างประเทศ เพราะต่อให้ในประเทศฉีดจนหมดทุกคนแล้ว แต่หากต่างชาติยังไม่ครบการเปิดให้เดินทางเข้ามาก็ยังคงต้องทำอย่างเข้มงวดอยู่ รวมถึงนโยบายการอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศของประเทศต้นทางด้วย” นายพิพัฒน์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image