จุรินทร์ เผยค้าชายแดนไทย-เมียนมา ยังไม่สะดุด ชี้สัญญาณส่งออกไทยดีต่อเนื่อง ยังห่วงปัญหาขาดตู้ส่งสินค้า
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าในส่วนการประท้วงในเมียนมาเมื่อวานนี้ ยังไม่ได้รับผลกระทบการส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทยกับเมียนมา ไม่ว่าจะเป็นที่ด่านระนองด่านพุน้ำร้อน หรือด่านเจดีย์สามองค์ที่กาญจนบุรี
ทั้งนี้ เมื่อวานสถานการณ์ยังปกติยกเว้นที่ด่านแม่สาย ท่าขี้เหล็ก จุดเดียวที่มีการชุมนุมของผู้ชุมนุมในฝั่งเมียนมา การขับรถข้ามแดนส่งสินค้า อาจชะลอตัวบ้าง แต่เนื่องจากผู้ส่งออกของไทยคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าแล้ว จึงได้เร่งการส่งสินค้าข้ามแดนในช่วงเช้าไปได้จำนวนมาก และการจราจรทางด้านการส่งสินค้ายังเคลื่อนตัวไปได้
“ในภาพรวมยังถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์ปกติ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทรวงติดตามใกล้ชิด ในอนาคตถ้ามีปัญหาอะไรจะเรียนให้ทราบต่อไป”
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม 2564 ถือว่าเป็นข่าวดีที่การส่งออกของไทยเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนปีที่แล้ว และกราฟกำลังสูงขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม บวก 0.35% ถ้าหักน้ำมัน ทองคำและยุทธปัจจัยออก บวกสูงถึง 7.57% เป็นการโตต่อเนื่องจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วที่เป็นบวก 4.71%
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สินค้าที่ขยายตัวมากในเดือนมกราคมคืออาหาร และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อโควิด โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญเริ่มกลับมาฟื้นตัวเช่นรถยนต์ เคมีภัณฑ์ คอมพิวเตอร์ เม็ดพลาสติก เป็นต้น ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการผลิตและการส่งออกของไทยในระยะถัดจากนี้ไป
ตลาดส่งออกที่สำคัญเช่นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ออสเตรเลีย ฮ่องกง ไต้หวัน ตะวันออกกลาง ยังขยายตัวต่อเนื่อง แม้แต่ตลาด CLMV ก็กลับมาเป็นบวกในรอบ 10 เดือน สะท้อนให้เห็นว่าการค้าชายแดนเริ่ม กลับเข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้น” นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรขยายตัวถึง 3.7% และขยายตัวสองเดือนต่อเนื่องโดยเฉพาะน้ำมันปาล์มขยายตัวกว่า 340 % มันสำปะหลังขยายตัวกว่า 50% ผักผลไม้แช่แข็ง และแปรรูปขยายตัวถึง 31% เนื้อหมูแช่แข็งขยายตัว 38% ยางพาราขยายตัวร้อยละ 1.5 เป็นการขยายตัว 4 เดือนต่อเนื่อง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากตัวเลขส่งออก ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการที่กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับเอกชนเดินหน้านำรายได้เข้าประเทศจากการส่งออก ตามแผนงาน 14 แผนงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ตนได้ประกาศไปเมื่อต้นปี โดยเฉพาะนโยบายเร่งรัดผลักดันการส่งออกพืชผลทางการเกษตร อาหาร สินค้าฮาลาล จะเน้นเจาะตลาดมุสลิมเพิ่มเติม รวมทั้งการแก้ปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้าที่จะร่วมมือกับเอกชนต่อไป
