เอกชน แนะรัฐช่วยภาคท่องเที่ยวเติมทุนควบฉีดวัคซีน ช่วยธุรกิจฟื้นตัวหลังโควิดซา

เอกชน แนะรัฐช่วยภาคท่องเที่ยวเติมทุนควบฉีดวัคซีน ช่วยธุรกิจฟื้นตัวหลังโควิดซา

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แม้ไทยจะมีวัคซีนแล้ว ใช่ว่าภาคการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวในทันทีโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากหลายประเทศใช้วิธีสนับสนุนให้คนในประเทศเที่ยวในประเทศของตนก่อนเช่นเดียวกับไทย ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศเชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ช่วงปลายปี 2564 จากปัจจัยเรื่องวัคซีนเป็นสำคัญ เพราะจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในประเทศอีกด้วย

นายธนิต กล่าวต่อว่า แต่จากการประเมินของภาคธนาคาร พบว่าธุรกิจการท่องเที่ยวก่อหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) กว่า 5.23 แสนล้านบาท หรือประมาณ 3.12% ซึ่งก่อนหน้านี้หลายธนาคารได้มีการช่วยเหลือกลุ่มเหล่านี้ โดยการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้ยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งในกลุ่มนี้มีจำนวนประมาณ 8.73 ล้านบัญชี แม้วิธีเหล่านี้จะช่วยประคองให้ธุรกิจยังอยู่ได้ แต่ไม่ได้เป็นผลต่อผู้ประกอบการที่ไม่มีทุนเพื่อดำเนินธุรกิจต่อ ดังนั้น เป็นโจทย์ของรัฐบาลที่ต้องหาแนวทางแก้ไขให้กับผู้ประกอบการกลุ่มนี้ โดยต้องทำคู่ขนาดไปกับเรื่องการฉีดวัคซีน เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน

“แนวทางช่วยเหลือทางการเงินของรัฐและธนาคารที่ผ่านมา อาทิ การยืดการชำระหนี้ เป็นต้น ถือว่าเป็นแนวทางที่ช่วยให้ธุรกิจไม่เกิดหนี้เสีย แต่รัฐคงลืมไปว่าการที่ต้องหยุดกิจการในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้บางธุรกิจไม่มีรายได้ ดังนั้นสิ่งที่รัฐต้องเข้ามาดูแลอีกเรื่องคือการเติมทุน เพื่อให้หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ธุรกิจจะได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง รวมถึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยประคองการจ้างงานไว้อีกด้วย” นายธนิตกล่าว

นายธนิต กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวเลขจำนวนคนว่างงานปัจจุบัน สภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าฯ ประเมินว่า มีจำนวนอยู่ที่ 1.75 ล้านคน หรือประมาณ 4.3% ซึ่งค่อยๆ ลดลงจากเดิมที่ประเมินไว้ หรือประมาณ 2 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่อยู่ในกลุ่มภาคบริการ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ที่ในหลายจังหวัดยังไม่ฟื้นตัว หรือกลับมาดำเนินธุรกิจ ส่วนตัวเลขการคาดการณ์ จำนวนคนว่างงานของ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประเมินว่า มีจำนวนคนว่างงานประมาณ 5.9 แสนคน หรือ 1.5% ซึ่งภาครัฐไม่ได้รวมจำนวนแรงงานแฝงที่เดินทางกลับภูมิลำเนา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image