ม.หอการค้า ชี้มาตรการรัฐดัน ศก.ฟื้นตัว คาดทั้งปี 64 จีดีพีมีโอกาสโตเกิน 3% หากคลายล็อกท่องเที่ยว

ม.หอการค้า ชี้มาตรการรัฐดันเศรษฐกิจฟื้นตัว คาดทั้งปี’64 จีดีพีมีโอกาสโตเกิน 3% หากคลายล็อกท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายธนวรรธน์​ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงการประเมินทัศนคติต่อมาตรการและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า จากมาตรการของรัฐบาลที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แก่ เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง เราชนะ ม.33 เรารักกัน และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีทิศทางที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น และคาดว่าจะเห็นผลชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 2/2564 หรือโตประมาณ 4-4.5% จากงบประมาณที่รัฐบาลอัดฉีดเข้าระบบเศรษฐกิจกว่า 2.5 แสนล้านบาท อีกทั้งในเรื่องของการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดเงินสะพัดในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย

นายธนวรรธน์​กล่าวต่อว่า ส่วนในไตรมาสที่ 1/2564 คาดว่าเศรษฐกิจจะติดลบ 1-2% และคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในช่วงครึ่งปีแรกจะเติบโต 1.5% ส่วนครึ่งปีหลังจะเติบโต 4.5% โดยทั้งปี 2564 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโต 2.8-3% เชื่อว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว จากปัจจัยเรื่องวัคซีนที่หลายประเทศเริ่มฉีดแล้ว ทำให้ทั้งโลกมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิดลดลงรายวัน

นายธนวรรธน์​กล่าวว่า การล็อกดาวน์ของหลายประเทศก็จะเริ่มคลายตัวมากขึ้น รวมถึงปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ก็จะเริ่มดีขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาคการส่งออก โดยคาดว่าการส่งออกของไทยจะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2/2564 ส่งผลให้ทั้งปี 2564 การส่งออกจะโต 3-4%

Advertisement

“หากการท่องเที่ยวเริ่มคลายตัวลง หรือมีแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด (ทราเวลบับเบิล) หรือหลายฝ่ายเริ่มสนับสนุนให้ภาครัฐเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวฉีดวัคซีนก่อน เช่นเดียวกับสหรัฐ และสิงคโปร์ ที่ได้มีการฉีดให้คนกลุ่มนี้แล้ว ซึ่งจะช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง สอดคล้องกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบค.) ที่ตอนนี้มี กอล์ฟ ควอเรนทีน และวิลล่าควอเรนทีน ถ้ารัฐยิ่งผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจนสามารถนำนักท่องเที่ยวต่างชาติกลบมาได้ประมาณ 6 ล้านคน มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยเติบโต 3-3.5%” นายธนวรรธน์​กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image