รฟม. เล็งศึกษาผลกระทบส่วนต่อขยายสายสีเหลือง หลัง ‘อีบีเอ็ม’ ไม่รับข้อเสนอ ‘บีอีเอ็ม’
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ว่า ได้รายงานผลเจรจาการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระหว่าง รฟม. กับบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ อีบีเอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนโดยกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโนไทยฯ-ราชกรุ๊ป) เป็นผู้รับสัมปทานให้ที่ประชุมรับทราบ เนื่องจากล่าสุดทาง อีบีเอ็ม ได้ทำหนังสือถึง รฟม. โดยยืนยันชัดเจนว่า ไม่สามารถรับภาระค่าชดเชยรายได้จากผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน ตามที่บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ อีบีเอ็ม ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทำหนังสือถึง รฟม. ขอให้เจรจากับอีบีเอ็มได้
นายภคพงศ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมฯ จึงมีมติมอบหมายให้ รฟม. ไปศึกษาเพิ่มเติมว่าหากเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีเหลืองจะต้องมีภาระค่าชดเชยจำนวนเท่าใด โดยให้เสนอที่ประชุมพิจารณาอีกครั้งในการประชุมบอร์ดเดือน มีนาคมนี้ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาต่อไป
“รฟม. ยังไม่ได้อยากจะหยุดการเจรจาเรื่องนี้กับอีบีเอ็ม เพราะยังมีเวลาเหลืออยู่ แต่จากข้อความในหนังสือที่ อีบีเอ็ม ส่งมาล่าสุด มีการระบุโดยใช้คำที่ค่อนข้างหนักแน่น (สตรอง) กว่าทุกครั้ง ว่าไม่สามารถรับภาระค่าชดเชยในส่วนนี้ไม่ว่ากรณีใดๆ ทำให้ต้องเร่งหารือกับบอร์ดว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้มีการอภิปรายถึงประเด็นเรื่องการยกเลิกก่อสร้างส่วนต่อขยายด้วย แต่ทั้งนี้ยังไม่มีข้อยุติให้รอผลการศึกษาก่อน” นายภคพงศ์กล่าว
นายภคพงศ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ รฟม. เคยทำการศึกษาในเบื้องต้นแล้ว โดยพบว่า เมื่อเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยายในปีแรก จะส่งผลกระทบต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยผู้โดยสารจะลดลงประมาณ 9 พันคน/วัน ส่วนรายได้หายไปประมาณวันละ 1.8 แสนบาท และผู้โดยสารรวมถึงรายได้จะลดลงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปีสุดท้ายของสัมปทาน ผู้โดยสารจะหายไปประมาณ 3 หมื่นคน รายได้หายไปประมาณวันละ 6 แสนบาท
