‘พิพัฒน์’ เตรียมถก ‘สภาพัฒน์’ เคาะเงื่อนไข ‘เที่ยวไทยวัยเก๋า’ ให้ตรงกัน

‘พิพัฒน์’ เตรียมถก ‘สภาพัฒน์’ เคาะเงื่อนไข ‘เที่ยวไทยวัยเก๋า’ ให้ตรงกัน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋า ที่รัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่าย ส่วนต่าง 5,000 บาทต่อคน ให้แก่นักท่องเที่ยวอายุ 55 ปีขึ้นไป โดยต้องมีการเดินทาง 2 คนขึ้นไปในวันอาทิตย์ถึงพฤหัสบดี พร้อมใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว เดินทาง 3 วัน 2 คืนขึ้นไป ล่าสุดภายในสัปดาห์นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะขอเข้าหารือกับทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อหารือความคืบหน้าของโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋า เนื่องจากปัจจุบันยังติดในรายละเอียดเงื่อนไขการจ่ายเงินสนับสนุนค่าแพคเกจทัวร์จากรัฐ ว่าควรใส่เม็ดเงินเข้าไปที่ใด ระหว่างบริษัทนำเที่ยวโดยตรง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ ที่คาดว่าน่าจะมีจำนวนเข้าร่วมกว่า 3,000 ราย หรือยิงตรงไปที่นักท่องเที่ยวกลุ่มสูงวัยจำนวน 1 ล้านคนตามเป้าหมายของโครงการดังกล่าว โดยเบื้องต้นมองว่าวิธีการจ่ายเงินสนับสนุนค่าแพคเกจทัวร์จากรัฐ ควรยิงตรงเข้าที่บริษัททัวร์ทันที เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ง่ายกว่า เพราะจำนวนบริษัททัวร์มีน้อยกว่าจำนวนคนเข้าร่วมโครงการ ซึ่งแตกต่างจากมุมมองของสภาพัฒน์ฯ ที่เห็นว่าควรยิงเงินตรงเข้ากระเป๋าประชาชนที่ใช้สิทธิมากกว่า

“เบื้องต้นกระทรวงการท่องเที่ยวฯ คาดว่าโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋า น่าจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการได้ก่อนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ที่น่าจะออกมาภายในเดือน มีนาคมนี้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะประกาศขยายระยะเวลาโครงการเราเที่ยวด้วยกันให้สิ้นสุดเดือน กันยายนนี้ จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายนนี้” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ขณะนี้มีแนวคิดในการปรับงบประมาณที่เหลือจากโครงการดังกล่าว หลังจากนักท่องเที่ยวจองสิทธิห้องพักเต็ม 1 ล้านห้องใหม่ในเฟสที่ 2 เมื่อต้นเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และทำให้เหลือเงินสนับสนุนในส่วนรัฐช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน 40% แบบคืนเงินย้อนหลัง แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อผู้โดยสาร เนื่องจากเหลือจำนวนสิทธิตั๋วเครื่องบินมากถึง 1.3 ล้านที่นั่ง จากโควต้าทั้งหมด 2 ล้านที่นั่ง เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนคงเหลือจากส่วนของห้องพัก เบื้องต้นประเมินว่าน่าจะเหลือเงินประมาณ 3-4 พันล้านบาท ส่วนเม็ดเงินที่เหลืออย่างชัดเจน จะต้องรอการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สรุปผลอีกครั้ง เพื่อนำมากำหนดจำนวนสิทธิใหม่ว่าในเฟสที่ 3 จะเปิดให้จองได้กี่ล้านห้องพัก พร้อมพิจารณาว่าจะมีการยุบส่วนการคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบินแบบเดิม แล้วเปลี่ยนรูปแบบเป็นรัฐช่วยจ่ายตั๋วเครื่องบินแบบบุฟเฟต์ได้หรือไม่อย่างไร เพื่อให้เป็นตัวช่วยกระตุ้นความถี่ของการท่องเที่ยวแทน ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยกับการให้รัฐช่วยจ่ายตั๋วเครื่องบินแบบบุฟเฟต์ เพียงแต่ตอนนี้บางสายการบินได้ออกโปรโมชั่นขายตั๋วบินแบบบุฟเฟต์ไปแล้ว บางรายสิ้นสุดการทำโปรโมชั่น บางรายเริ่มขายโปรโมชั่นนี้อีกครั้ง จึงต้องหารือกับสายการบินต่างๆ เพิ่มเติม ว่ารัฐจะสามารถเข้าไปสนับสนุนส่วนนี้ได้ในรูปแบบใดบ้าง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image