สรท.จี้รัฐแก้ปมตู้คอนเทนเนอร์-ต่างด้าว รับค้าโลกฟื้น ดันส่งออกโต 3-4%
น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกเดือนมกราคม 2564 มีมูลค่า 19,706 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 0.35% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันกับปีก่อน โดยกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวที่ 3.7% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันกับปี และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 0.9% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันกับปี ซึ่งสรท.ยังคงคาดการณ์การส่งออกในปี 2564 เติบโต 3-4%
อ่านข่าว ส่องถนนชนบทเส้นใหม่ จังหวัดไหนบ้าง เปิดใช้วันไหน เช็กเลย
ปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ เศรษฐกิจและการค้าโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว จากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก ในปี 2564 ขยายตัวจากเดิม 5.2% เป็น 5.5% อีกทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของประเทศ จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศยุโรป รวมไปถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกิน 50 ซึ่งหมายถึงกิจกรรมการผลิตกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ต่อมาราคาน้ำมันดิบในตลาดโรคมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทย คือ ปัญหาโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ประกอบไปด้วย ปัญหาการขาดแคนตู้คอนเทนเนอร์ ที่มีตู้ฯไปตกค้างในประเทศ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีน ทำให้ค่าระวางเรือปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการส่งออก อีกทั้งค่าเงินบาทมีการแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงแนวโน้มการขาดแคลนแรงงานต่างด้าวของภาคอุตสาหกรรม สืบเนื่องมาจากการอพยพแรงงานกลับประเทศในปลายปี 2563
โดย สรท. มีข้อเสนอแนะกับรัฐบาล คือ ขอผ่อนปรนมาตรการต่ออายุแรงงานต่างด้าว ให้สามารถทำงานต่อเนื่องในปี 2564 เร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ด้วยการให้รัฐบาลสนับสนุนผู้ส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรให้มีความสามารถในการชำระค่าระวางเรือในอัตราที่สูงขึ้น อีกทั้งขอให้รัฐบาลเช่าเรือและสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เปล่าขนกลับเข้าประเทศ รวมไปถึงให้รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมบริการซ่อมตู้คอนเทนเนอร์ในประเทศ สุดท้ายอยากให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รักษาเสถีรภาพค่าเงินบาท และใช้มาตรการทางการเงินเพื่อลดความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องจักรหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
