บสย. อัดเงินหมื่นล้านอุ้ม ‘เอสเอ็มอี’ ท่องเที่ยว – ด้าน ‘ปธ.วุฒิสภา’ ยันล้มสรรหา 14 กสทช.

บสย.อัดเงินหมื่นล้านอุ้ม ‘เอสเอ็มอี’ ท่องเที่ยว ระบุ เม.ย.ช่วยเอ็นพีแอลแต่ธุรกิจรอด ด้าน ‘ปธ.วุฒิสภา’ ยันล้มสรรหา 14 กสทช.

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่กระทรวงการคลัง นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ประเมินผลกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว ปี 2563 รายได้ลดลงเหลือ 8 แสนล้านบาท ลดลง 72.8% จากปี 2562 มีรายได้ 2.99 ล้านล้านบาท

ขณะที่ปีนี้ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ยังถูกซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ส่งผลให้ภาคท่องเที่ยวมีความไม่แน่นอน บสย. จึงเร่งจัดสรรวงเงินค้ำประกันเพื่อดำเนินโครงการเฟส 2 เปิดตัวโครงการ บสย.SMEs ไทยสู้ภัยโควิด 2 เปิดรับคำขอตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม-31 พฤษภาคม 2564 เพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง วงเงินค้ำประกัน 10,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปีแรก ค้ำประกันสูงสุดต่อราย 100 ล้านบาท และระยะเวลาค้ำประกันสูงถึง 10 ปี

“โครงการ บสย.SMEs ไทยสู้ภัยโควิด 2 คาดว่าจะสร้างสินเชื่อในระบบไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท และพยุงการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจได้ถึง 180,000 ราย โครงการนี้ยังสนับสนุนธนาคารให้พิจารณาสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยอัตราการช่วยเหลือค่าประกันชดเชย สูงถึง 35% ซึ่งถือเป็นการชดเชยความเสียหายในอัตราสูงที่สุดของโครงการค้ำประกัน บสย.” นายรักษ์กล่าว

นายรักษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ช่วงเดือนเมษายน บสย. เตรียมออกโครงการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ค้างชำระค่างวดไม่เกิน 3 เดือน และ ธุรกิจที่ค้างชำระจนเป็นหนี้เสีย ค้างไม่เกิน 2 ปี โดยให้อัตราการช่วยเหลือค่าประกันชดเชยที่ 40% คาดใช้วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ทำต่อเนื่องมาจาก โครงการสร้างไทย1 ของ บสย.ในช่วงต้นปี 2563 วงเงิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นหนี้เสียแต่ยังดำเนินธุรกิจได้

Advertisement

ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2564 มีผลบังคับใช้ ในวันนี้ 2 มีนาคม ว่า กระบวนการที่ให้วุฒิสภาเลือกบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกจากกรรมการสรรหา จำนวน 14 คน ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมนั้นต้องยกเลิก

เพราะตาม พ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ กำหนดให้ต้องเริ่มกระบวนการสรรหา ภายใน 15 วัน นับจากวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ และกระบวนการสรรหานั้นต้องเป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่กำหนด และกรรมการสรรหาต้องคัดเลือกบุคคลที่สมัครตามคุณสมบัติใหม่ในกฎหมาย กสทช.ฉบับใหม่กำหนดบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อมาทั้ง 14 คนนั้น มาตามกฎหมาย กสทช.ฉบับเก่า ถูกยกเลิกไปแล้ว ดังนั้น กระบวนการของวุฒิสภาต้องยกเลิกไปด้วย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 14 คนที่ผ่านการคัดเลือกมานั้น มีสิทธิกลับไปสมัครเพื่อคัดเลือกได้ใหม่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image