เอ็ตด้า ประเดิมเทคโนโลยีใหม่ ออกใบรับรองแพทย์เป็นอิเล็กทรอนิกส์

เอ็ตด้า ประเดิมเทคโนโลยีใหม่ ออกใบรับรองแพทย์เป็นอิเล็กทรอนิกส์

ETDA ระดมสมองนวัตกรรมใหม่ ดึงผู้เชี่ยวชาญด้าน Deep Tech และ Decentralized Digital Identity ในหัวข้อ “ETDA Testbed เรื่อง การใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์สําหรับกระบวนการเบิกค่ารักษาพยาบาล” ครั้งที่ 1 หวังลดปัญหาการปลอมแปลงเอกสาร – การตรวจสอบสถานการณ์เบิกค่ารักษาพยาบาล และลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บเอกสารรูปแบบกระดาษ

นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า เวทีครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อระดมความคิดต่อนวัตกรรมใหม่ ในรูปแบบ Distributed Ledger Technology และแนวคิดในการจัดการข้อมูลแบบ Self-Sovereign Identity (SSI) ที่มีการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ “เอกสารรับรอง” (Verifiable Credential: VC) ในกระบวนการทางธุรกิจจริง พร้อมทั้งร่วมกันให้ความเห็นในการกําหนด Business Flow และรายละเอียด ต่าง ๆ ที่จําเป็นสําหรับการออกแบบระบบงานของโครงการ

โดยความคิดเห็นที่เกิดขึ้นจากภาคส่วนต่าง ๆ จะนำไปเป็นแนวทางการทดสอบนวัตกรรมในรูปแบบ Testbed ซึ่งเป็นการทดสอบนวัตกรรมที่มีการประยุกต์ใช้งานกับบริบทของธุรกิจจริง แต่ยังอยู่ในสภาพแวดล้อมของการทดสอบ (Test environment) ที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง (Near production environment) โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานอื่นที่ต้องการศึกษาหรือร่วมทดสอบในนวัตกรรมนั้น ๆ สามารถเข้าร่วมทดสอบได้ ซึ่งทาง ETDA เลือกทดสอบกับบริการที่คาดว่าจะมีผลกระทบการใช้งานในวงกว้าง

ได้แก่ “การใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์สําหรับกระบวนการเบิก ค่ารักษาพยาบาล” สืบเนื่องจากปัญหาที่หลายหน่วยงานได้ประสบมาเกี่ยวกับการออกเอกสารใบรับรองแพทย์ เอกสารใบเสร็จรับเงิน ในกระบวนการเบิกค่ารักษาพยาบาลในรูปแบบเดิม เช่น การปลอมแปลงเอกสาร การตรวจสอบสถานะการใช้เอกสารในการเบิกค่ารักษาพยาบาล ไปจนถึงการบริหารจัดการเอกสารในรูปแบบกระดาษ ที่แต่ละหน่วยงานต้องแบกรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ

Advertisement

สำหรับการจัดงานครั้งนี้มี คุณศราวุธ รุ่งเจริญกิจ และ ดร.ณัฐวุฒิ กองสุวรรณ สองผู้เชี่ยวชาญด้าน Deep Tech และ Decentralized Digital Identity มาให้ความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงาน และแนวคิดของ Self-Sovereign Identity (SSI) ที่เชื่อว่า “คนทุกคนควรได้เป็นเจ้าของตัวตนของตนเองโดยสมบูรณ์” ด้วยการใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม Decentralized Digital Identity ที่มีการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ผ่าน Blockchain ด้วยคุณสมบัติการเก็บข้อมูลแบบไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ อีกทั้งยังไม่มีตัวกลางใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้การทำธุรกรรมดิจิทัลต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความมั่นคงปลอดภัยสูง

“เทคโนโลยี Self-Sovereign Identity (SSI) จะคืนอำนาจในการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองกลับสู่ประชาชน โดยใช้งานผ่านระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลหรือ Digital ID ซึ่งเป็นอีกบทบาทที่ ETDA สนับสนุนการดำเนินการของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (คธอ.) ที่กำกับดูแลเรื่อง Digital ID เพื่อพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการใช้ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงเรื่องของการออกเอกสารรับรองแบบดิจิทัลในรูปแบบ VC ซึ่งจะออกโดยหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกบริหารจัดการตามกรอบความคิดของ SSI ที่มีความมั่นคงปลอดภัยสูง สามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบ และทำให้ Digital ID สามารถใช้งานในโลกดิจิทัลได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยคาดว่าเทคโนโลยี SSI และ VC จะนำไปสู่ความเข้าใจร่วมกัน และก่อให้เกิดการใช้งานที่เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนต่อไปในอนาคต” นายชัยชนะ กล่าว

สำหรับโครงการ ETDA Testbed “การใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์สําหรับกระบวนการเบิกค่ารักษา พยาบาล” หากสามารถขยายผลเพื่อนำไปใช้งานได้จริงในอนาคต คาดว่าทั้งภาครัฐ ประชาชน และเอกชนจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยการออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ VC และสามารถนำ VC ไปใช้ในรูปแบบ “เอกสารสำแดง” (Verifiable Presentation: VP) ซึ่งทำให้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์มีความน่าเชื่อถือตามมาตรฐานสากล ด้วยคุณสมบัติที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและความถูกต้องของลายมือชื่อได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดขั้นตอน ค่าใช้จ่าย และเวลาในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ลงได้

Advertisement

การใช้งาน VC และ VP สามารถนำไปใช้เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ตัวอย่างเช่น หนังสือให้ความยินยอม หนังสือมอบอำนาจ ใบปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยออกให้แก่นักศึกษา หรือใบรับรองแพทย์ที่แพทย์ออกให้แก่ผู้ป่วย ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล และความเสียหายจากอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่อาจเกิดขึ้น ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ ETDA จะนำประเทศไทยเข้าสู่สังคมดิจิทัล แบบไร้กระดาษอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ มีโรงพยาบาลและหน่วยงานบริการด้านสุขภาพต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้ความสนใจเข้าร่วมในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่ได้จะนำไปสู่การปรับปรุงโครงการฯ ต่อไป โดย ETDA คาดหวังว่าจะมีหน่วยงานที่ต้องการศึกษาหรือทดสอบนวัตกรรม เข้ามาร่วมทดลองใช้ระบบเพิ่มขึ้นหลังเวทีครั้งนี้ ซึ่งตัวระบบกำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา คาดว่าจะแล้วเสร็จให้ร่วมทดสอบได้ในเดือนพฤษภาคมนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image