ก.อุตฯ ดันแปรรูปกัญชงเชิงพาณิชย์ ตั้งเป้าศูนย์กลางอาเซียนใน5ปี

ก.อุตฯ ดันแปรรูปกัญชงเชิงพาณิชย์รับบีซีจี โมเดล ตั้งเป้าศูนย์กลางแปรรูปอาเซียนใน5ปี

นายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) ได้ผลักดันผู้ประกอบการแปรรูปกัญชงสู่พาณิชย์รองรับ บีซีจี โมเดล โดยร่วมกับ 3 สถาบันเครือข่าย สถาบันอาหาร (สอห.) สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สพว.) และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (สสท.) ผลักดันกัญชง ให้ใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังจากกฎหมายอนุญาตให้ผลิต นำเข้า ส่งออก หวังไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตและส่งออกสินค้ากึ่งวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์จากกัญชงที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียนภายใน 5 ปี หรือภายในปี 2568

อ่านข่าว “2 บิ๊ก DOD – JKN” ลงนามพัฒนาสูตรผลิตผลิตภัณฑ์จากกัญชง จ่อคลอด10 โปรดักส์ในปีนี้

นายสุชาติ กล่าวว่า พืชกัญชงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมากเห็นได้จากมูลค่าตลาดอุตสาหกรรมกัญชงทั่วโลกในปี 2562 ที่มีมูลค่าประมาณ 4,410 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 16.21% ต่อปี คาดว่าภายใน 7 ปีข้างหน้า หรือ ปี 2569 จะมีมูลค่ากว่า 14,670 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยปัจจัยสำคัญที่สามารถนำส่วนต่างๆ ของกัญชงไปใช้แปรรูปได้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ วัสดุคอมโพสิต พลาสติกชีวภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ตลอดจนการนำเมล็ดและน้ำมันจากเมล็ดกัญชงมาใช้เพื่อการบริโภค โดยตลาดสำคัญ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา และยุโรป

นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับมูลค่าตลาดทั่วโลกของสารสกัดซีบีดี ที่มีฤทธิ์ระงับประสาท ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และบรรเทาอาการเจ็บป่วย รวมทั้งคุณประโยชน์ที่หลากหลายเมื่ออยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งอาหารและไม่ใช่อาหาร ปี 2562 มีมูลค่า 553.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 33.5% ต่อปี และคาดว่าภายใน 7 ปีข้างหน้า หรือ ปี 2569 จะมีมูลค่ากว่า 4,268.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

Advertisement

น.ส.พะเยาว์ คำมุข รองผู้อำนวยการสศอ. กล่าวว่า สศอ.ได้เล็งเห็นความสำคัญในการผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมกลางน้ำและปลายน้ำเพื่อให้เกิดการพัฒนาพืชกัญชงอย่างครบวงจร จึงได้ดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากต้นกัญชง ครบทุกส่วน ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาเมล็ดเพื่อใช้เป็นอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แกนแห้งนำไปใช้ทำพื้นรองเท้าและยางคอมปาวด์เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ยางถอนขนไก่ เปลือกนำไปใช้ทำสิ่งทอเป็นเส้นด้ายกัญชงผลิตเสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย และผลิตภัณฑ์คอมโพสิต อาทิ กันชนรถยนต์และสเก็ตบอร์ด ใบใช้ประโยชน์ทำเครื่องสำอาง ก้านใบและใบนำไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ อีกทั้งช่อดอกนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ไล่แมลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างมูลค่าเพิ่มสูงผ่านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตอบสนองนโยบายบีซีจี ที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

“ขณะนี้ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ได้เร่งเตรียมความพร้อมในด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับพืชกัญชง โดยจัดทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับการผลิตสินค้ากึ่งวัตถุดิบจากพืชกัญชง จำนวน 3 มาตรฐาน ได้แก่ น้ำมันเมล็ดกัญชง น้ำมันกัญชง และสารสกัดซีบีดี จากกัญชงคาดว่าจะทยอยประกาศใช้ภายในปีนี้ คาดว่าจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สูง มั่นคง ก่อให้เกิดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม เพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทย “น.ส.พะเยาว์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image