| ผู้เขียน | ศศวัชร์ คมนียวนิช |
|---|
จอดป้ายประชาชื่น : กู้เงินผ่านแอพพ์ ภัยรูปแบบใหม่
เมื่อไม่กี่วันนี้มีข่าวหญิงสาวรายหนึ่งกู้เงินผ่านโทรศัพท์ถึง 8 แอพพลิเคชั่น แต่หมุนเงินไม่ทัน ชำระปิดหนี้ไม่ได้ 3 แอพพ์ เจ้าหนี้เลยข่มขู่ทางไลน์ให้ชดใช้เงิน ไม่เช่นนั้นจะส่งคนมายึดทรัพย์และกระทืบให้ตาย ทำให้เกิดความกลัวจึงแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อีกกรณีชายหนุ่มรายหนึ่ง กู้เงินผ่านแอพพ์ 6 แอพพ์ รวม 16,583.47 บาท แต่ได้เงินเพียง 8,356.48 บาท ต้องชำระคืนภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่เงินเข้า โดยแอพพ์แจ้งว่าได้หักค่าเติมเกมและค่าบริการ ต้องจ่ายหนี้ตามยอดที่กู้เท่านั้น ผู้กู้โดนโทรศัพท์ข่มขู่ ส่งข้อความไปยังเบอร์โทรศัพท์ต่างๆ รวมถึงแฮกข้อมูลส่วนตัวในที่ทำงาน เข้าไปข่มขู่จนถูกไล่ออกจากงาน
ดูแล้วเป็นการกู้เงินนอกระบบดีๆ นั้นเอง เพียงแต่อัพเกรดให้กู้เงินผ่านแอพพ์ได้ สิ่งที่น่ากลัวก็คือ แอพพ์นำข้อมูลรายชื่อเบอร์ติดต่อที่บันทึกไว้ ส่งเข้าไปที่แอพพ์ได้ด้วย เจ้าหนี้สามารถติดต่อ เพื่อน ญาติ รวมไปถึงบริษัทที่ทำงาน ทำให้ลูกหนี้เกิดความอับอายกับสังคม
นี่คือภัยรูปแบบใหม่ของการกู้เงินนอกระบบ ผิดกฎหมาย ทั้งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ รวมถึง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
งานนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพหลักฟ้องร้องดำเนินคดีความต่างๆ แต่เงินกู้นอกระบบมีมากมายเสียเหลือเกิน ปราบยังไงก็ไม่หมด
รัฐบาลควรอุดช่องโหว่เงินกู้นอกระบบ อย่างการปล่อยสินเชื่อผ่านสถาบันการเงินของรัฐให้มากขึ้น เช่น การปล่อยเงินกู้ผ่านแอพพ์เป๋าตัง ส่งเสริมระบบสินเชื่อรายย่อยผ่านกองทุนหมู่บ้าน ที่สำคัญคืออย่าปิดกั้นผู้ไม่มีหลักประกัน และยกระดับรายได้ประชาชนให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น
ผู้กู้เองก็ต้องเลือกใช้บริการสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น อย่าไปหลงเชื่อกับคำโฆษณาล่อลวง
