วิ่งทางหลวง 120 กม./ชม. ยังไม่เริ่มใช้ ‘ศักดิ์สยาม’ เผย เตรียมนำร่อง สายเอเชีย มี.ค.นี้

ความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. “ศักดิ์สยาม”สั่งนำร่อง 50 กม.แรก ทางหลวงหมายเลข 32 ภายใน มี.ค.นี้

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวง กำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดิน หรือทางหลวงชนบทที่กำหนด พ.ศ. 2564 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 (1) แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 ว่า ในประกาศดังกล่าว กำหนดให้ รถบรรทุก น้ำหนักรถเกิน 2,200 กิโลกรัม ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร (กม.) ต่อ ชั่วโมง (ชม.) รถโดยสารมีที่นั่งคนโดยสารเกิน 15 คน ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.

รถลากจูงรถอื่น รถยนต์สี่ล้อเล็ก รถยนต์สามล้อ ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 65 กม./ชม. รถจักรยานยนต์ ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. รถจักรยานยนต์ กำลังเครื่องยนต์ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม. รถโรงเรียน ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. รถโดยสารที่มีที่นั่งเกิน 7 คนแต่ไม่เกิน 15 คน ให้ใช้ความเร็ว ไม่เกิน 100 กม./ชม. รถแทรกเตอร์ รถบดถนน หรือรถใช้งานเกษตรกรรม ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม. และรถอื่นๆ ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม.

อ่าน – มีผลแล้ว! กฎใหม่ รถยนต์ วิ่งทางหลวงได้ 120 กม./ชม. – บิ๊กไบค์ได้ 110 กม./ชม.

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนรถอื่นๆ หากรถอยู่ในช่องเดินรถขวาสุด ต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม. เว้นแต่ในกรณีที่ช่องเดินรถนั้น มีข้อจำกัดด้านการจราจรหรือทัศนวิสัย มีสิ่งกีดขวาง หรือมีเหตุขัดข้องอื่น ทั้งนี้ หากในทางเดินรถมีเครื่องหมายจราจร แสดงว่าเป็นเขตอันตราย หรือเขตให้ขับรถช้าๆ ให้ลดความเร็วลง และเพิ่มความระมัดระวังขึ้นตามสมควร และในกรณีที่ทางเดินรถ หรือช่องเดินรถใด มีเครื่องหมายจราจรกำหนดอัตราความเร็วต่ำกว่าอัตราที่กำหนด ให้ใช้ความเร็วไม่เกินอัตราความเร็วที่กำหนดไว้

Advertisement

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า แม้กฎกระทรวงประกาศออกมาแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะมีผลเลยทันที จะต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งตามหลักการต้องสะดวก รวดเร็ว และต้องปลอดภัย ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้บูรณาการร่วมกับกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ เมื่อผู้อำนวยการทางหลวงประกาศว่า ถนนเส้นใดสามารถใช้ความเร็วได้ ซึ่งจะมีการประกาศแจ้งบนถนน ว่าจะเริ่มดำเนินการให้ใช้ความเร็วได้ตามกฎกระทรวง เบื้องต้น จะคิกออฟในเส้นทางแรกคือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ช่วงบริเวณหมวดทางหลวงบางปะอิน-ทางต่างระดับอ่างทอง กม. ที่ 4+100-50+000 ระยะทางประมาณ 50 กม. คาดว่าจะเริ่มได้ภายในเดือนมีนาคมนี้

“ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสำรวจเส้นทาง ถนนทั่วประเทศ เพื่อดูว่าแต่ละเส้นมีเส้นใดทางใดประกาศให้ใช้ได้ และส่งข้อมูลมาให้กระทรวงฯ ภายในวันที่ 12 มีนาคม ก่อนมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ในวันที่ 15 มีนาคมนี้ เพื่อกำหนดพื้นที่ว่าจะมีถนนช่วงใดบ้างที่ให้ใช้ความเร็วได้ พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทำป้ายกำหนดอัตราความเร็วแต่ละช่องจราจรเพื่อให้ประชาชนรับทราบ

Advertisement

ส่วนงบประมาณที่จะใช้ให้หน่วยงานประสานมายังกรมการขนส่งทางบก โดยจะขอใช้เงินจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ซึ่งยืนยันว่ามีเพียงพอ และให้ดำเนินการครบทั่วทั้งประเทศภายในปี 2564 นี้” นายศักดิ์สยามกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image