‘เราชนะ’ ใช้จ่ายหมุนเวียน 1.2 แสนล้าน กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน เตรียมรับ 7 พัน 5 เม.ย.นี้

‘เราชนะ’ ใช้จ่ายหมุนเวียน 1.2 แสนล้าน กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน เตรียมรับ 7 พัน 5 เม.ย.นี้

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับโครงการเราชนะ ที่กระทรวงการคลังขยายเวลาให้ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน) ระหว่างวันที่ 8-26 มีนาคม นั้น จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน เป็นต้นไป โดยผู้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ จะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ จำนวน 7,000 บาท และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ ผ่านบัตรประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน- 31 พฤษภาคม

“ประชาชนที่ประสงค์จะลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องที่ เพื่อดำเนินการประสานการจัดหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ หรือติดต่อที่สาขาหรือจุดให้บริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน ”

ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มดังกล่าวต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดยการเสียบบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Dip Chip) ผ่านเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Capture หรือ EDC) พร้อมกำหนดรหัส (PIN Code) ที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทยฯ ก่อน จึงจะสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ได้

Advertisement

นอกจากนี้ โครงการ “เราชนะ” มีมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 120,815 ล้านบาท แบ่งเป็น ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 50,182 ล้านบาท

ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิร่วมโครงการแล้ว จำนวน 16.6 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 68,139 ล้านบาท และกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 2,494 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.3 ล้านคน

โดยเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าที่มี “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image