‘สันติ’ สั่ง ‘การยาสูบ’ ประสานองค์การเภสัชฯ ทำกัญชา-กัญชงแปรรูปเป็นยา หวังเพิ่มรายได้เกษตรกร

‘สันติ’ สั่ง ยสท.ประสานองค์การเภสัชกรรม ทำกัญชา-กัญชงแปรรูปเป็นยา หวังเพิ่มรายได้เกษตรกรชาวยาสูบ

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้สั่งการให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ประสานกับองค์การเภสัชกรรม ในการผลิตกัญชาและกัญชง เพื่อส่งให้องค์การเภสัชฯนำไปใช้ประโยชน์ โดยอาจนำไปแปรรูปเพื่อเป็นยาและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีจะทำให้ชาวไร่ยาสูบมีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจาก ยสท.ลดปริมาณการรับซื้อใบยาจากชาวไร่ เนื่องจากยอดขายของการยาสูบลดลงจากผลกระทบโครงสร้างภาษียาสูบใหม่

นายสันติกล่าวว่า ในปัจจุบันตามกฎหมายเปิดโอกาสให้สามารถปลูกกัญชาและกัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และอื่นๆ ที่ไม่ใช่เป็นสารเสพติดได้ แต่ผู้ปลูกจะต้องรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชน แล้วขออนุญาตจากทางการ ซึ่งหากชาวไร่ยาสูบสามารถปลูกกัญชา หรือกัญชง ทดแทนใบยาสูบได้ จะทำให้ชาวไร่มีรายได้เพิ่มขึ้น

นายสันติกล่าวว่า รายได้ต่อไร่ของการปลูกใบยาสูบอยู่ที่ประมาณ 23,000 บาท ขณะที่รายได้ต่อไร่จากการปลูกกัญชาอยู่ที่ราว 150,000 บาทต่อไร่ โดยการปลูกกัญชาหรือกัญชงนั้น จะอยู่ภายใต้การควบคุมของ ยสท. เพื่อไม่ให้เล็ดลอดไปใช้ประโยชน์ด้านเป็นสารเสพติดได้

Advertisement

“การปรับโครงสร้างภาษียาสูบทำให้รายได้ของเกษตรกรที่ขายใบยาสูบให้กับ ยสท.ลดลง จากที่เคยซื้อใบยาจากชาวไร่ 30 ล้านกิโลกรัม (กก.) ต่อปี ปัจจุบันเหลือเพียง 13 ล้านกิโลกรัมต่อปี ส่วนกำไรต่อซองของ ยสท.ที่เคยได้รับ 5-6 บาทต่อซอง ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 50 สตางค์ต่อซองเท่านั้น” นายสันติกล่าว

นายสันติกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบนั้น จำเป็นต้องพิจารณาทั้งแง่บวกและแง่ลบ เพราะหากปรับลดภาษีลงมามากอาจถูกองค์การนอกภาครัฐ (NGO) ที่ต่อต้านการสูบบุหรี่และองค์การอนามัยโลก (WHO) ร้องเรียนได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่อยู่ที่สองอัตรา (2 Tier) คือกรณีราคาขายปลีกแนะนำไม่เกิน 60 บาทต่อซอง อัตราภาษีอยู่ที่ 20% และกรณีราคาขายปลีกแนะนำเกิน 60 บาทต่อซอง อัตราภาษีอยู่ที่ 40 %

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image