| ผู้เขียน | ปิยะวรรณ ผลเจริญ |
|---|
จอดป้ายประชาชื่น : ปตท.วันนี้
ภายหลัง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ประกาศจัดตั้ง บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เพื่อรุก 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจยา เน้นยาสามัญ 2.ธุรกิจอาหารและโภชนาการ หรืออาหารที่เป็นยาได้ และอาหารที่สร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย ลดโรค 3.ธุรกิจอุปกรณ์และวัสดุทางการแพทย์ ต่อยอดวัสดุปิโตรเคมีในกลุ่ม ปตท. และ 4.ธุรกิจเทคโนโลยีทางการแพทย์ หรือการวินิจฉัยโรค
ทั้งหมดสอดรับเทรนด์โลกที่ใส่ใจสุขภาพ พร้อมรับมือกับโรคร้ายที่ไม่มีใครพยากรณ์ได้ อาทิ เจ้าไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ทั้งโลกกำลังประสบ ขณะเดียวกันก็เพื่อต่อยอดธุรกิจ ปตท.ในอนาคตด้วย
ล่าสุด อินโนบิก (เอเซีย) ยังประกาศร่วมทุนกับเครือญาติ คือ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ลูกของ ปตท. จัดตั้ง บริษัท อินโนโพลีเมด จำกัด เพื่อผลิตผ้าไม่ถักไม่ทอ (Non-woven Fabric) ที่ขึ้นรูปด้วยวิธี Melt Blown ที่เป็นวัตถุดิบหลักสำหรับผ้าชั้นกรองหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 ชุดกาวน์ และแผ่นกรองอากาศ เพื่อพัฒนาเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทดแทนการนำเข้าวัตถุดิบ เพิ่มเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ไทยให้ทัดเทียมกับสากล คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 (ตุลาคม-ธันวาคม 2564)
ไม่เพียงการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อแสวงหากำไร ในด้านสังคม ปตท.ยังทำด้วย อาทิ โครงการชุมชนยิ้มได้ ที่ตั้งขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยทำเว็บไซต์ “ชุมชนยิ้มได้.com” เป้าหมายช่วยเหลือชุมชนและเกษตรกรให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน แก้ปัญหาช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับชุมชน คัดสรรสินค้าคุณภาพ รับรองตามมาตรฐาน จากชุมชนเครือข่ายของ ปตท. ปีที่ผ่านมาผู้สนใจเข้าชมเว็บไซต์ประมาณ 170,000 คน สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 10 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าโครงการต่างๆ เพื่อสังคม อาทิ การดำเนินโครงการรีสตาร์ต ไทยแลนด์ จ้างแรงงาน พนักงาน และนักศึกษาระดับ ปวช.-ปริญญาตรีในทุกภูมิภาค กว่า 25,000 อัตรา เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19
ลุ้นความสำเร็จ แต่คงจะดีถ้า ปตท.คงแบ่งปันสังคม ทำโครงการจับต้องได้ เพื่อพัฒนาฐานรากของประเทศต่อไป
