‘สทท.’ แนะรัฐทำ ‘คนละครึ่ง’ ภาคท่องเที่ยว เสริมแรงกระตุ้นเดินทางเพิ่ม

‘สทท.’ แนะรัฐทำ ‘คนละครึ่ง’ ภาคท่องเที่ยว เสริมแรงกระตุ้นเดินทางเพิ่ม

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย โดยเฉพาะคนละครึ่ง ที่ออกมา ซึ่งถือว่ากระจายการใช้จ่ายของประชาชนที่ได้รับสิทธิดีมาก สะท้อนได้จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง มีจำนวนหลายล้านร้านค้า ซึ่งเป็นจำนวนที่รัฐบาลเปิดเผยออกมา รวมถึงร้านค้าเหล่านี้ ยังสามารถรับชำระได้ทั้งคนละครึ่ง เราชนะ และ ม.33เรารักกัน ด้วย ภาคเอกชนท่องเที่ยวจึงมีการเสนอว่า หากรัฐบาลสามารถพิจารณาโครงการคนละครึ่ง ในภาคการท่องเที่ยวออกมาได้ เชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชนดีไม่ต่างกัน โดยรูปแบบเที่ยวคนละครึ่ง ก็จะใช้เงื่อนไขเดียวกับคนละครึ่งที่ออกมา คือ การให้ผู้ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการ เดินทางไปท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องใช้บริการผ่านบริษัททัวร์นำเที่ยวเท่านั้น โดยผู้ได้รับสิทธิจะสามารถชำระค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ได้โดยตรง ซึ่งรัฐบาลจะต้องสมทบให้ประชาชน 50% ส่วนอีก 50% ผู้ใช้สิทธิจะต้องชำระเอง ที่ผ่านมาเอกชนได้หารือถึงการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหากอิงตามมาตรการของภาครัฐที่ออกมา มองว่าเที่ยวคนละครึ่งก็น่าจะสามารถทำออกมาได้ เพรทะรูปแบบไม่แตกต่างกัน โดยเอกชนจะรวบรวมรายละเอียดนำเสนอให้กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อเสนอให้ภาครัฐพิจารณาต่อไปด้วย

“ที่ผ่านมาเราเคยคุยกันถึงคนละครึ่งในภาคการท่องเที่ยวแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ หรือมีความเคลื่อนไหวใดๆ กลับมา แต่จากที่รัฐบาลอนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทยออกมาแล้ว ก็ถือเป็นโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ดี ซึ่งทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะสามารถใช้ได้จนถึงเดือนกรกฎาคม 2564 หากรัฐบาลสามารถออกคนละครึ่งท่องเที่ยวมาใช้ดึงดูดใจประชาชนเพิ่มเติมได้ เชื่อว่าจะดันให้การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีก โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น หรือช่วงที่คนออกเดินทางน้อยลง” นายชำนาญ กล่าว

นายชำนาญ กล่าวว่า ตัวเที่ยวคนละครึ่ง หากจะออกมาก็ต้องพิจารณาป้องกันการทุจริตที่อาจมีออกมาด้วย โดยประเมินว่า หากรัฐบาลสามารถทำงานร่วมกับเอกชนในการหารือเรื่องรายละเอียดทั้งหมด เงื่อนไขการปฏิบัติ ซึ่งจะมีการสร้างเงื่อนไขที่เชื่อว่าจะสามารถป้องกันการทุจริตได้ เพราะเอกชนที่จะทำงานกับรัฐบาล โดยเฉพาะสมาชิกในสามคมฯ ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวด้วยกันทั้งหมด จึงน่าจะมองออกว่า ช่องโหวใดที่จะเปิดให้เกิดการโกงได้ อาทิ โครงการกำลังใจ ที่เปิดให้เจ้าหน้าที่ อสม. อสส.และเจ้าหน้าที่รพ.สต. ออกเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไม่เกิน 2,000 บาทต่อคน โดยที่ผ่านมาพบว่า มีเจ้าหน้าที่อสม. บางคนให้คนอื่นใช้สิทธิเที่ยวแทน ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ซึ่งหากไม่ได้เป็นเจ้าของสิทธิแล้วนำสิทธิไปใช้ท่องเที่ยวก็ถือเป็นการทุจริตเช่นกัน จึงต้องพยายามหาช่องว่ามีทางใดที่สามารถโกงได้ และต้องปิดช่องนั้นก่อน แต่สำคัญคือ รัฐบาลจะต้องเปิดโอกาสให้เอกชนทำงานร่วมด้วยก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image