จุรินทร์ช่วยเกษตรกรข้าวโพดปี 2 งวด 5 ยกระดับทะลุราคาประกัน 8.63 บ./กก.

มัลลิกาชู ‘จุรินทร์-พาณิชย์’ นำช่วยเกษตรกรข้าวโพดปี 2 งวด 5 ยกระดับราคาทะลุประกันรายได้ที่ 8.63 บาทต่อกิโลแล้ว

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เดินหน้านโยบายปี 2563/2564 หรือประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2 ซึ่งจ่ายส่วนต่างประกันจะได้ไป 4 งวด สำหรับงวดที่ 5 ที่เพิ่งผ่านมานี้นั้น ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2564 และมีกำหนดเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 19 มีนาคม 2564 สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชนิดความชื้นไม่เกิน 14.5% กิโลกรัมละ 8.63 บาท

“ดังนั้น จากราคาเกณฑ์กลางนี้สูงกว่าเป้าหมายโครงการประกันรายได้เกษตรกรกิโลกรัมละ 8.50 บาท ดังนั้น งวดนี้จึงไม่มีการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกรเท่ากับเป็นผลประโยชน์ของเกษตรกรล้วนๆ ด้วยการยกระดับราคาทำให้มีหลักประกันที่มั่นคง ซึ่งเกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีสองนี้มีทั้งสิ้น 4.5 แสนครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูก 7 ล้านไร่ มีปริมาณผลผลิต 4.8 ล้านตัน ขณะเดียวกันประเทศมีความต้องการใช้กว่า 8.3 ล้านตัน ทั้งนี้ อุตสาหกรรมหลักคือการทำอาหารสัตว์” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

นางมัลลิกากล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม นโยบายของรัฐบาลนั้น นอกจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรแล้วยังมีโครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีนี้ ซึ่งงวดนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการ 38 ราย ใน 15 จังหวัดช่วงเวลาเก็บสต๊อกคือ 1 พฤศจิกายน 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2564 นอกจากนี้ ยังมีโครงการล่าสุดที่กำลังเข้าคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า คือโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยนายจุรินทร์ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำการประชุมครั้งที่ 2/ 2564 ไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาอนุมัติโครงการ ทั้งนี้ เพื่อช่วยเกษตรกรหากเกิดวิกฤตจากสภาพภูมิอากาศโลกแปรปรวน พื้นที่เกษตรกรหลายแห่งได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติส่งผลให้เกษตรกรไม่มีทุนสำหรับการเพาะปลูกในปีการผลิตถัดไป ดังนั้น จึงทำโครงการประกันภัยทางการเกษตร ทั้งนี้ โครงการจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีจึงจะเดินหน้าช่วยเกษตรกรต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image