‘การยาสูบฯ’หนีตาย!! เกาะเทรนด์กัญชง-กัญชาฟีเวอร์ พลิกองค์กรฟื้นกำไร!!

‘การยาสูบฯ’หนีตาย!! เกาะเทรนด์กัญชง-กัญชาฟีเวอร์ พลิกองค์กรฟื้นกำไร!!

‘การยาสูบฯ’หนีตาย!! เกาะเทรนด์กัญชง-กัญชาฟีเวอร์ พลิกองค์กรฟื้นกำไร!!

ปัจจุบันพืช “กัญชง” และ “กัญชา” ถือเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สังคมให้ความสนใจ หลังจากรัฐบาลได้ผลักดันให้กัญชงและกัญชากลายเป็นพืชถูกกฎหมาย ล่าสุด เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ อนุญาตให้นำส่วนประกอบของพืชกัญชงและกัญชาที่ไม่มีสารเสพติด ได้แก่ เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง โปรตีนจากเมล็ดกัญชง ผสมในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มได้ รวมทั้งทำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมได้ หลังจากปีที่ผ่านมาอนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์ได้แล้ว

มูลค่าเศรษฐกิจในประเทศจะไต่ไปถึงระดับไหนยังต้องติดตาม แต่ที่เห็นชัดเจนแล้วคือ มูลค่าตลาดกัญชาทั่วโลก ปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2567 จะมีมูลค่ารวมทั่วโลกกว่า 1.04 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท) แบ่งเป็น ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์สัดส่วน 60% และตลาดกัญชาเพื่อการสันทนาการ 40%

ขณะที่มูลค่าตลาดกัญชงทั่วโลกปี 2562 มีมูลค่าประมาณ 4,410 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.4 แสนล้านบาท) อัตราเติบโตเฉลี่ย 16.21% ต่อปี คาดว่าปี 2569 จะมีมูลค่ากว่า 14,670 ล้านเหรียญสหรัฐ (4.6 แสนล้านบาท) โดยกัญชงเป็นพืชที่สามารถนำส่วนต่างๆ ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งกระดาษ วัสดุคอมโพสิต พลาสติกชีวภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ตลอดจนการนำเมล็ดและน้ำมันจากเมล็ดกัญชงมาใช้เพื่อการบริโภค โดยตลาดสำคัญ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา และยุโรป

Advertisement

⦁กัญชง-กัญชาบูม ทัพธุรกิจรุกหนัก
กระแสดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการไทยหลายรายสนใจ ประกาศตัวบุกตลาด เริ่มที่บริษัทขนาดใหญ่ของไทย อย่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ล่าสุด ได้ลงนามกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ในการในการวิจัยและพัฒนาพืชกัญชงเพื่อประกอบอาหาร ซึ่งทำการศึกษาตั้งแต่วิธีการเพาะปลูกจนถึงการนำมาทำหรือผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร รวมทั้งกลุ่มกิจการเครื่องดื่มต่างสนใจเช่นกัน ทั้งกลุ่มคาราบาว อิชิตัน กรุ๊ป และเซ็ปเป้ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเครื่องสำอาง อาทิ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กลุ่มอาหารเสริม อาทิ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ที่หันมาสนใจมาผลิตอาหาร อาหารเสริมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากกัญชง

ไม่ใช่เพียงภาคธุรกิจเอกชนเท่านั้นที่พยายามรุกตลาด นำกัญชงมาสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หน่วยงานภาครัฐเองก็สนใจเช่นกัน ได้แก่ การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ที่สนใจโดยร่วมวิจัยและพัฒนาการเพาะปลูกและพัฒนาพืชกัญชงและกัญชาเพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ กับสถาบันวิจัยหรือสถานศึกษาในไทย รวมทั้งได้ผลักดันให้เกษตรผู้เคยปลูกยาสูบสามารถปลูกกัญชงและกัญชาได้ถูกต้องตามกฎหมายในเชิงพาณิชย์ โดยเชื่อว่าจะเป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งสร้างรายได้ให้ ยสท.เอง

⦁การยาสูบฯดันกม.เอื้อผลิต
การปรับตัวของการยาสูบฯครั้งนี้มาจากสัญญาณขาลงของธุรกิจยาสูบที่เป็นแรงกระตุ้นชั้นดี ทั้งผลกระทบจากโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ที่ทำให้ราคาบุหรี่สูงขึ้น ทำให้ยอดขายและกำไรลดลง เพราะนักสูบลดลง และส่วนหนึ่งหันไปใช้บริการยาเส้นที่มีราคาถูกกว่ามากแทน ต่อมาได้พยายามสร้างรายได้ทางอื่น อาทิ การร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ที่โรงงานผลิตยาสูบ จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าถึงปีละ 19 ล้านบาท รวมถึงการนำที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย หนองคาย ออกประมูลเช่าสร้างรายได้ โดยคาดปี 2564 จะมีกำไร 600-700 ล้านบาท และปี 2565 จะมีกำไรเกิน 1,000 ล้านบาท

Advertisement

แต่รายได้เหล่านี้ไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืน การเดินหน้าศึกษาธุรกิจกัญชากัญชงจึงเป็นส่วนหนึ่งในแผนปรับตัวหารายได้ขององค์กรระยะยาว

ล่าสุด ยสท.ได้ผลักดันกฎหมายเพื่อส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบให้สามารถปลูกพืชกัญชงและกัญชาเสริมได้ ขณะนี้กำลังอยูในขั้นตอนระหว่างตีความขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ยสท. โดยคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการกฤษฎีกาคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงเดือนเมษายน หลังจากนั้นจะมีการออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อบังคับใช้ต่อไป

สอดคล้องกับนโยบายของ สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ ยสท.ประสานกับองค์การเภสัชกรรม เดินหน้าผลิตกัญชาและกัญชง เพื่อส่งให้องค์การเภสัชฯนำไปใช้ประโยชน์โดยอาจนำไปแปรรูปเพื่อเป็นยาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบได้มีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจาก ยสท.ลดปริมาณการรับซื้อใบยาจากชาวไร่ จากเดิม 28 ล้านกิโลกรัมต่อปี เหลือ 13 ล้านกิโลกรัมต่อปี ทำให้รายได้เกษตรกรหายไปประมาณ 50%

การลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบเป็นผลมาจากยอดขายบุหรี่ของ ยสท.ลดลง เพราะผลกระทบโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ ประกอบกับข้อมูลการสำรวจของศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) เมื่อพฤษภาคม 2563 ช่วงที่มีมาตรการล็อกดาวน์ และเคอร์ฟิวจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พบว่า คนไทยมีพฤติกรรมสูบบุหรี่ลดลง 27.1% เพราะกลัวกระทบต่อสุขภาพและกังวลว่าจะเสี่ยงป่วยด้วยโรคโควิด-19 รวมทั้งเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งการล็อกดาวน์โควิด-19 ทำให้คนไทยซื้อบุหรี่น้อยลง 31.3% โดยผู้สูบบุหรี่ส่วนมากซื้อบุหรี่จากร้านสะดวกซื้อ ส่งผลให้ยอดขายบุหรี่ของร้านสะดวกซื้อลดลง 25%

⦁ดึงเกษตรกร1.3หมื่นครัวเรือนขึ้นทะเบียน
โดยการสนับสนุนปลูกกัญชาและกัญชงของการยาสูบฯนั้น เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และอื่นๆ ที่ไม่ใช่สารเสพติด โดยผู้ปลูกจะต้องรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนแล้วขออนุญาตจากทางการ หากเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบสามารถปลูกกัญชาหรือกัญชงทดแทนใบยาสูบได้ จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยให้อยู่ภายใต้การควบคุมและดูแลของ ยสท.เพื่อไม่ให้เล็ดลอดไปใช้ประโยชน์ด้านเป็นสารเสพติดได้

ยสท.มีแผนในการรับขึ้นทะเบียนเพื่อเพาะปลูกกัญชงและกัญชาเสริม จากเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ ปัจจุบันมีจำนวน 13,500 ครัวเรือน ซึ่งการปรับพื้นที่มาปลูกกัญชงและกัญชาเสริม จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมการปลูกใบยาสูบอยู่ที่ประมาณ 23,000 บาทต่อไร่ แต่หากปลูกพืชกัญชงและกัญชาคาดว่าจะมีรายได้ขั้นต่ำ 70,000-80,000 บาทต่อไร่ ซึ่งการยาสูบฯสำรวจแล้วพบว่ามีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 50-60% จากจำนวนเกษตรกรในเครือข่าย

ด้านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้การสนับสนุนสินเชื่อเกษตรกรในการปลูกพืชกัญชงและกัญชา หากมีการออกกฎหมายชัดเจน เรื่องอนุญาตให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชกัญชงและกัญชาได้ในเชิงพาณิชย์และใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไปให้ชัดเจน โดยวงเงินที่สามารถปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรปลูกกัญชงและกัญชาได้ จะอยู่ในวงเงินสินเชื่อสำหรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต จำนวน 10,000 ล้านบาท

เมื่อกระแสของโลกเปลี่ยน ผู้คน สังคม และองค์กรต้องปรับตัวตามเพื่อความอยู่รอด เช่นเดียวกับการยาสูบฯ ที่ต้องปรับตัวรับกับสังคมที่ก้าวไปข้างหน้า โดยการผลักดันการพืชกัญชงและกัญชา ทำให้องค์กรขึ้นชั้นหน่วยงานลำดับต้นที่ได้รับการอนุญาตในการทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชงและกัญชาอย่างครบวงจร

คว้าโอกาสให้การยาสูบฯฟื้นกำไรขึ้นมาอีกครั้ง!!

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image