บขส.คุมเข้มรับสงกรานต์ เผย ปชช.คืนตั๋วกว่า 4 พันใบ ชี้ ใช้สิทธิเราชนะ ขอคืนเงินไม่ได้ เลื่อนได้อย่างเดียว
เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยถึงตัวเลขผู้โดยสารเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน บขส. ได้จัดรถบขส. รถร่วม รถตู้ (เที่ยวไป) จำนวน 3,443 เที่ยว รองรับผู้โดยสาร จำนวน 40,017 คน ส่วนเที่ยวกลับ ได้จัดรถบขส. รถร่วม รถตู้ จำนวน 3,470 เที่ยว รองรับผู้โดยสาร จำนวน 31,868 คน ส่วนการเดินของวันที่ 9 เมษายน คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนา ประมาณ 50,000 คน โดย บขส. ยังคงจัดรถโดยสารรองรับการเดินทางในเที่ยวไป กว่า 5,000 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้กว่า 100,000 คน
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมายังสถานีขนส่งผู้โดยสาร อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงก่อนเวลารถออก และผู้ที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้าให้ตรวจสอบเวลาและจุดขึ้นรถที่ระบุในตั๋วโดยสาร โดยเฉพาะเส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากในปีนี้ บขส.นำรถโดยสารออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 เท่านั้น
นายสัญลักข์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บขส. ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารที่มีความประสงค์งดการเดินทางในระหว่างวันที่ 8 -18 เมษายน 2564 ให้คืนตั๋วโดยสาร บขส. ได้เต็มราคา ไม่หักค่าธรรมเนียม ซึ่งข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 9 เมษายน มีผู้โดยสารนำตั๋วโดยสารมาขอคืนแล้ว 4,160 ใบ คิดเป็น 6.58% โดยตั๋วโดยสารที่จองล่วงหน้าเดินทางในวันที่ 9 เมษายน มีผู้โดยสารขอคืนตั๋วมากที่สุด จำนวน 1,074 ใบ ส่วนใหญ่เดินทางในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ เส้นทาง กรุงเทพฯ-สกลนคร กรุงเทพฯ-นครพนม และกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี
นายสัญลักข์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถติดต่อขอคืนตั๋วหรือเลื่อนการเดินทาง ได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ก่อนเวลารถออก ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
ส่วนผู้โดยสารใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเราชนะ และ ม33เรารักกัน ไม่สามารถขอคืนเงินค่าตั๋วได้ แต่สามารถแจ้งเลื่อนการเดินทางได้ ก่อนเวลารถออกไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สั่งกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้เพิ่มการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง และบนรถโดยสาร ตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และขอให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะใช้บริการตลอดเวลา รวมทั้งให้ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะหรือแพลตฟอร์มไทยชนะทุกครั้งที่ใช้บริการ และในการเดินทางข้ามจังหวัด ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารและประกาศเข้าพื้นที่ของแต่ละจังหวัดก่อนออกเดินทางด้วย
