บีโอไอคลอดสิทธิปย.อุตการแพทย์ครบวงจร-เมืองต้นแบบชายแดนใต้ ฟื้นส่งเสริม 6 กิจการจูงใจนักลงทุน 

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบนโยบายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร หรือ เมดิคัล ฮับ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยจะให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแก่กิจการผลิตยา และกิจการผลิตเครื่องมือแพทย์ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ครบวงจร ช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงยาและเครื่องมือแพทย์ และลดการขาดดุลการค้าจากการนำเข้ายาและเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศ ทั้งนี้ภายใต้นโยบายดังกล่าว จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่โครงการลงทุนในกลุ่มกิจการผลิตยา และกิจการผลิตเครื่องมือแพทย์ โดยกิจการผลิตยาในปัจจุบันไม่ได้รับการยกเว้นภาษี จะเปลี่ยนเป็นให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 5 ปี และหากโครงการใดยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนภายในปี 2560 จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี ส่วนกิจการผลิตเครื่องมือแพทย์ ปัจจุบันให้การส่งเสริมอยู่แล้ว แต่เพื่อสนับสนุนให้กิจการเอสเอ็มอีไทยสามารถลงทุนผลิตเครื่องมือแพทย์ได้ จึงเห็นชอบให้เพิ่มประเภทกิจการผลิตเครื่องมือแพทย์ในมาตรการส่งเสริมเอสเอ็มอีไทย ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นอีก 2 ปี จากเกณฑ์ปกติ 5 ปี จะได้ยกเว้น 7 ปี

นางหิรัญญากล่าวว่า บอร์ดบีโอไอยังออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในเมืองต้นแบบ“สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”เพื่อให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลในการจัดทำโครงการเมืองต้นแบบ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้กับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ใน 3 พื้นที่ได้แก่ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส โดยให้เพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับโครงการลงทุนใหม่ใน 3 พื้นที่สูงกว่าสิทธิประโยชน์ของมาตรการส่งเสริมการลงทุนใน 4 จังหวัดภาคใต้ และ 4 อำเภอ ของสงขลา ได้แก่ หักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า และค่าประปา 2 เท่า เป็นเวลา 20 ปี จากเดิม 15 ปี ลดหย่อนอากรขาเข้า 90% สำหรับวัตถุดิบนำเข้ามาผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเป็นเวลา 10 ปี จากเดิม 5 ปี และยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นสำหรับการผลิตเพื่อการส่งออก เป็นระยะเวลา 10 ปี จากเดิม 5 ปี

นอกจากนี้ที่่ประชุมยังเพิ่มประเภทกิจการที่เคยยกเลิกการส่งเสริมไปแล้ว แต่เปิดให้การส่งเสริมใหม่เฉพาะในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย 1.กิจการผลิตอาหารสัตว์หรือส่วนผสมอาหารสัตว์ 2.กิจการผลิตวัสดุก่อสร้าง และกิจการผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงสำหรับงานสาธารณูปโภค ยกเว้นการผลิตกระเบื้องมุงหลังคาเซรามิกส์และการผลิตกระเบื้องปูพื้นหรือผนัง 3.กิจการผลิตสิ่งปรุงแต่งสำหรับประทินร่างกาย อาทิ สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน ยกเว้นเครื่องสำอาง 4.กิจการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับสินค้าอุปโภค อาทิ บรรจุภัณฑ์พลาสติก 5.กิจการผลิตสิ่งของจากเยื่อหรือกระดาษ อาทิ กล่องกระดาษ และ 6.กิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม และ/หรือ คลังสินค้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image