ปธ.หอค้า เผย เจ้าสัวแห่หนุน มอบสถานที่สำหรับฉีดวัคซีนต้านโควิด หลังสงกรานต์เปิดชื่อ 7 จุดนำร่องในกทม.
เมื่อวันที่ 14 เมษายน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยความคืบหน้าความร่วมมือหอค้าไทยกับสำนักงานกรุงเทพมหานคร ในการจัดเตรียมสถานที่สำหรับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เสริมประสิทธิภาพการกระจายวัคซีนไปยังกลุ่มประชาชนพักอาศัยในกทม. ว่า หลังสงกรานต์หอการค้าไทยกับกรุงเทพมหานคร จะแถลงเปิดตัวสถานที่รองรับการฉีดวัคซีนของภาคเอกชน ซึ่งได้เสนอตัวและผ่านการคัดเลือกถึงความเหมาะสมของสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์การใช้งาน ที่มีถึง 7 ขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจเช็คประวัติ คัดกรอง ลงประวัติในคอมพิวเตอร์ วัดความดัน ตรวจสอบประวัติด้านสุขภาพ ฉีดวัคซีน ที่พักเพื่อให้ผู้รับวัคซีนได้พักดูอาการ 30 นาที จุดออกใบนัดหรือใบรับรองการฉีดวัคซีน รวมถึงเป็นสถานที่ ใกล้โรงพยาบาลหากมีเหตุฉุกเฉินสามารถเดินทางได้ภายใน 10-15 นาที เป็นต้น เมื่อมีข่าวออกไป ได้มีผู้บริหารเอกชนจำนวนมากติดต่อที่ให้การสนับสนุนในทุกด้าน ไม่แค่สถานที่ รวมถึงห้องเย็นเก็บวัคซีน การขนย้าย และสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อให้เกิดการฉีดวัคซีนได้กว้างขวาง เชื่อว่าหลังสงกรานต์การแพร่ระบาดจะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ จำนวนผู้ติดเชื้อมีโอกาสพุ่งเร็วและรุนแรงกว่าการระบาดที่ผ่านมามาก
“ ตอนนี้สถานที่ผ่านเกณฑ์ 7 แห่งแต่ยังไม่เปิดเผยข้อมูล เพราะอยู่ระหว่างการซักซ้อมสถานที่ พนักงาน และระบบต่างๆ โดยเอกชนจะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย และเป็นที่ตั้งการฉีดวัคซีนต่อเนื่อง 6 เดือน เพราะเมื่อทางกรุงเทพมหานครได้รับวัคซีนเพียงพอที่จะเปิดให้ประชาชนเข้ารับการฉีด เบื้องต้น 1.5 แสนโดส ก็ควรมีการฉีดเฉลี่ยต่อวัน 3.5 หมื่นต่อวัน และในระยะ 6 เดือนจากเริ่มฉีดควรให้ได้ครบ 10 ล้านโดส ซึ่งเฉลี่ยต้องฉีดเดือนละ 1.5 ล้านโดส การมีสถานที่ที่เพียงพอทั่วประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งในต่างจังหวัดก็มีการเสนอเข้ามามากแล้วกว่า 140 แห่ง ปลายเดือนเมษายนนี้ทุกอย่างจะชัดเจนถึงแผนปฎิบัติจริง เป็นการเพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือเสนอถึงนายกรัฐมนตรีให้เอกชนมีส่วนนำเข้าหรือหาแหล่งวัคซีนเพื่อให้เอกชนสามารถนำเข้าที่จะทำการฉีดวัคซีนทำได้กว้างขวาง ครอบคลุมประชาชนได้เร็ว ลดภาระงบประมาณได้บางส่วน ดูจากแพร่ระบาดวันนี้ เราอยากให้เกิดการฉีดวัคซีนเร็วที่สุด ตอนนี้เพียง 0.3% ของประชาชน น้อยมาก ถือว่าสอบตก “ นายสนั่น กล่าว
นายสนั่น กล่าวว่า ในวันที่ 16 เมษายนนี้ หอการค้าไทยจะส่งหนังสือถือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอเข้าหารือถึงแนวทางที่ภาคเอกชนจะสนับสนุนภาครัฐ และขอให้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ตัวแทนหอการค้าจังหวัดเข้าหารือหรือแลกเปลี่ยนความเห็นต่อการพิจารณาและร่วมกับแก้วิกฤตโควิดและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งหนึ่งในนั้นหากให้รัฐรับฟังข้อเสนอภาคเอกชนก่อนออกมาตรการล็อกดาวน์หรือชัตดาวน์ เพื่อไม่เกิดผลกระทบต่อทางเศรษฐกิจ โดยแต่ละพื้นที่ก็จะมีสถานการณ์และความต้องการที่แตกต่างกันไป ตอนนี้ความเห็นล็อกดาวน์ยังแตกต่างกัน ซึ่งได้ให้หอการค้าจังหวัด ทำข้อเสนอแนะต่างๆ และความต้องการเข้ามา ทั้งเรื่องโควิด มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ เป็นต้น เพื่อนำข้อเสนอเหล่านั้น ไปหารือขณะที่เข้าหารือกับภาครัฐ และในภาคเอกชนหลังสงกรานต์ก็จะประชุมหารือประเมินผลกระทบจากโควิดระบาดรอบ 3 อีกครั้งด้วย
