โรงแรมเหนือโอดยอดจองไม่ถึง 5% ท่องเที่ยวเงียบเหงาสุด

โรงแรมเหนือโอดยอดจองไม่ถึง 5% ท่องเที่ยวเงียบเหงาสุด

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ นับตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้า ยอดจองห้องพักล่วงหน้าหายไปเกือบหมด เหลือไม่ถึง 5% เท่านั้น จากเดิมที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีมาก เพราะเป็นช่วงของการเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด หากเทียบกับตลอดทั้งปี โดยการเดินทางของนักท่องเที่ยวขณะนี้เงียบสงบมาก ซึ่งประเมินแนวโน้มเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเงียบแบบนี้ต่อเนื่องอีก 1-2 เดือน (เมษายน-พฤษภาคม) ประเมินจากการระบาดระลอก ที่ผ่านมา ซึ่งใช้เวลาในการคุมโควิดประมาณ 2 เดือน และการฟื้นตัวของการเดินทางอีกกว่า 1 เดือน

นางละเอียด กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการทั้งโรงแรม ทัวร์นำเที่ยว อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องต่างๆ อยู่ระหว่างการลุ้นว่า ภาครัฐจะมีคำสั่งประกาศให้เปิดตัวลงชั่วคราวอีกหรือไม่ เนื่องจากหลายโรงแรมเพิ่งกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจใหม่อีกครั้งได้ไม่ถึง 1 เดือน เพื่อให้บริการในเทศกาลสงกรานต์โดยเฉพาะ ทำให้การจ้างงานที่กำลังกลับมา น่าจะหายไปอีก แม้ตอนนี้การที่รัฐบาลจะสั่งปิดหรืออนุญาตให้เปิดได้ ก็กระทบกับธุรกิจโรงแรมทุกทางอยู่แล้ว เพราะภาคท่องเที่ยวได้รับกระทบตรงและแรงมาตลอด

“กว่าการท่องเที่ยวและการเดินทางจะกลับมาฟื้นตัวได้ น่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือน ที่จะเห็นแนวโน้มดีขึ้น หรือเห็นแสงสว่างบ้าง ทำให้วิกฤตครั้งนี้จะส่งผลกระทบกับการจ้างงานโดยตรง เพราะค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการมีสูงมาก เมื่อกลับมาเปิดแล้วไม่มีลูกค้า ก็ต้องปิดตัวชั่วคราวลงอีกครั้ง ในแบบที่ไม่ต้องรอให้รัฐบาลสั่งปิดเลยด้วยซ้ำ โดยโควิดรอบแรก ล็อกดาวน์เข้มๆ ประมาณ 3 เดือน พอระบาดระลอก 2 ไม่ได้ประกาศล็อกดาวน์ แต่จำกัดการเดินทาง 2 เดือน ทำให้การระบาดระลอก 3 นี้ คาดว่าจะใช้ไม่น้อยกว่า 2 เดือนเช่นกัน” นางละเอียด กล่าว

นางละเอียด กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องที่ต้องการให้รัฐบาล เร่งช่วยเหลือมากที่สุด เป็นการพยุงการจ้างงาน โดยที่ผ่านมา เอกชนได้เสนอให้รัฐบาลออกมาตรการร่วมกันจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน ในสัดส่วนคนละ 50% ระหว่างเอกชน และรัฐบาล ซึ่งยังไม่ได้รับการตอบรับ โดยครั้งนี้ถือว่ามีความจำเป็นมากกว่าครั้งที่ผ่านมา จึงอยากให้รัฐบาลเร่งรัดให้ความช่วยเหลือออกมา อย่างน้อยช่วย 1-2 เดือนก็ยังดี โดยมองว่างบประมาณจากสำนักงานประกันสังคม มีเพียงพอในการช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ทั่วประเทศ เพราะมีฐานแรงงานในระบบกว่า 9 ล้านคน อีกทั้งมองว่าเงินกู้จากพ.ร.กเงินกู้ก้อน 1 ล้านล้านบาท ไม่น่าจะพอช่วยเยียวยาและลดลกระทบได้ รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายที่เป้นต้นทุนคงที่ โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าและค่าน้ำด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image