‘ดีอีเอส’ จ่อเรียก ‘ไทยคม’​ ปรับสัดส่วนถือหุ้น ก่อนมอบสัมปทาน​ดาวเทียม​ให้ ‘เอ็นที’

‘ดีอีเอส’ จ่อเรียก ‘ไทยคม’​ ปรับสัดส่วนถือหุ้น ก่อนมอบสัมปทาน​ดาวเทียม​ให้ ‘เอ็นที’​ หวั่นผิด กม. เหตุสัดส่วนผู้ถือหุ้นไม่ตรงปก

เมื่อวันที่ 16 เมษายน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)​ เปิดเผยว่า ภายในเดือนพฤษภา​คม 2564 กระทรวงดีอีเอสจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)​ เพื่อรับทราบเรื่อง​การรับสัมปทาน​ดาวเทียมต่อจากบริษัท​ ไทยคม จำกัด (มหาชน)​ ได้แก่ ไทยคม 4 และ 6 ซึ่งจะสิ้นสุด​สัญญา​สัมปทานในเดือนกันยายน 2564 เพื่อให้บริษัท โทรคมนาคม​แห่งชาติ​ จำกัด (มหาชน)​ หรือเอ็นที เป็นผู้ดูแล​ต่อ จากเดิมที่ ครม. มีมติให้บริษัท ก​สท​ โทรคมนาคม จ​ำ​กัด (มหาชน)​ หรือแคท เป็นผู้ดูแล​ แต่เมื่อควบรวมกิจการระหว่าง แคท และบริษัท​ ทีโอที​ จำกัด (มหาชน)​ เป็นเอ็นที จึงจำเป็นต้องเสนอให้กับ ครม. รับทราบอีกครั้ง

นายชัยวุฒิกล่าวว่า อย่างไร​ก็ตาม​ อยากให้เรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.โดยเร็ว แต่เนื่องจากสถานการณ์​การแพร่ระบาดของไวรัส​โค​วิด​-19 และด้วยการติดขัดในข้อกฎหมาย เนื่องจากการทำสัญญา​สัมปทาน​ของไทยคมขณะนั้น ระบุว่า ไทยคม จะต้องมี บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลง​ให้เหลือเพียงร้อยละ 41 เนื่องจากปลัดกระทรวง​สมัยหนึ่งมีการแก้ไข​สัญญา​ให้เหลือในสัดส่วนดังกล่าว ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)​ ชี้มูลแล้วว่ามีความผิด ดังนั้น กระทรวงดีอีเอส จึงจะเชิญไทยคมเข้าหารือ เพื่อให้ปรับสัดส่วนการถือหุ้นตามสัญญาเดิม

ขณะเดียวกัน หากพิจารณา​ข้อมูลของ อินทัช​ พบว่า บริษัท สิงเทล โกลบอล อินเวสเมนต์ หรือสิงเทล ซึ่งเป็นบริษัท​ต่างชาติ ถือหุ้นร้อยละ 21 นั่นหมายความ​ว่าบริษัท​ต่างชาติจะเป็นผู้ควบคุม และกำกับกิจการดาวเทียมไทยทั้งหมด กระทรวงดีอีเอสจึงจำเป็นต้องพิจารณา​การถือหุ้นของสิงเทลในอินทัชด้วย เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้อง​กับไทยคม

Advertisement

“แม้ดาวเทียม​จะส่งมอบกลับมาเป็นของรัฐโดยเอ็นทีเป็นผู้ดูแล​ก็ตาม แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะให้ไทยคมช่วยดูแลด้วย จึงจำเป็น​ต้องดูเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นให้ถูกต้อง ไม่ให้สัดส่วนของต่างชาติมากกว่าคนไทย เพราะดาวเทียมเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลและความมั่นคง เมื่อรัฐต้องดูแล สัดส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต้องเป็นบริษัทไทย” นายชัยวุฒิกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image