‘พรอสเพอร์ฯ’ ตั้ง ‘เคจีไอ’ ลีดอันเดอร์ไรท์เตอร์ เคาะขายหุ้นระดมทุน 280 ลบ.

‘พรอสเพอร์ฯ’ ตั้ง ‘เคจีไอ’ ลีดอันเดอร์ไรท์เตอร์ เคาะขายหุ้นระดมทุน 280 ลบ.

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์  กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด  (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของบริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 140 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดราคา IPO หุ้นละ 2 บาท ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่น่าสนใจ เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ กำหนดวันเปิดให้จองซื้อหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 19-21 เมษายน 2564 พร้อมกันนี้ ได้แต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด โดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในวันที่ 27 เมษายน 2564 เป็นวันแรก โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “PROS”

“มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PROS ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนด้วยราคาไอพีโอที่กำหนดไว้เป็นระดับราคาที่น่าสนใจ เทียบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ โดยราคาดังกล่าวคิดเป็น P/E 22 เท่า เทียบกับบริษัฯที่มีธุรกิจคล้ายคลึงกันซึ่งมี P/E ประมาณ 40 เท่า โดย P/E ดังกล่าว คำนวณจากผลประกอบการในอดีต โดยที่ยังไม่ได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคตจากงานในมือมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท และยังไม่ได้รวมโอกาสในการเข้าประมูลงานเพิ่มเติมระหว่างปี ตามการเติบโตของหลายปัจจัย อาทิ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของผู้ประกอบการกลุ่มร้านค้าประเภทศูนย์การค้าและร้านค้าปลีกรายใหญ่ และการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์” นางสาวพัชพร กล่าว

นายพงศ์เทพ รัตนแสงสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร เปิดเผยว่า จำนวนเงินที่ระดมทุนได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ก่อนหักค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ประมาณ 280 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีแผนลงทุนในเครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ใช้ในงานก่อสร้างเพิ่มเติม ภายในปี 2564 – ปี 2565 โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 30 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพของบริษัทในการเข้ารับงานโครงการจากหน่วยงานราชการ และเอกชนมากขึ้น นอกจากนี้ เงินส่วนที่เหลือประมาณ 250 ล้านบาท บริษัทฯ มีแผนที่จะใช้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อขยายความสามารถในการเข้าประมูลงาน ภายในปี 2564 – 2565 โดยบริษัทคาดว่าภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนแล้วเสร็จจะช่วยขยายความสามารถในการรับงานของบริษัทให้เพิ่มขึ้นได้

ทั้งนี้ ณ วันที่ 15 มีนาคม 2564 บริษัทฯ เตรียมเข้าร่วมประมูลงาน และมีโครงการที่อยู่ระหว่างประมูลงาน กระจายอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิเช่น อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล อสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า และ Data Center รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 17 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,694 ล้านบาท โดยในโครงการที่บริษัทเข้าร่วมประมูลดังกล่าวข้างต้น บริษัทเป็นผู้ชนะการประมูลหรือได้รับหนังสือแสดงเจตจำนงการว่าจ้างแล้วจำนวน 7 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,229.48 ล้านบาทและมีงานในมืออีกจำนวน 768.31ล้านบาท รวมงานในมือประมาณ 2,000 ล้านบาท

Advertisement

“PROS กำหนดราคาเสนอขายที่ 2 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม ซึ่งนักลงทุนจะได้มีส่วนลงทุนในบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการเติบโตทาง จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตและเพิ่มความสามารถของพนักงานในการให้บริการเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต  โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้เชื่อว่า PROS จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี และถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้น Growth Stock ซึ่งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เชื่อมั่นในการเติบโตของบริษัทฯ พร้อมทั้งเน้นการถือลงทุนระยะยาว” นายพงศ์เทพ กล่าว

ด้านนายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมและมีความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจาก PROS มีจุดเด่นในการเป็นผู้ประกอบการ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานมาอย่างยาวนาน มุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพ การดูแลและเอาใจใส่ลูกค้าแต่ละโครงการอย่างใกล้ชิด การตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ตลอดจนการส่งมอบงานที่มีมาตรฐานและคุณภาพภายในระยะเวลาที่ลูกค้ากำหนด ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของโครงการให้ดำเนินงานติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารมาอย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image