ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วอนใช้ “อำนาจสั่งการรายจังหวัด” คำนึงผลกระทบทางศก.เป็นหลัก

ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วอนใช้ ”อำนาจสั่งการรายจังหวัด” คำนึงผลกระทบทางศก.เป็นหลัก

นายธนากร คุปตจิตต์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) เปิดเผยว่า การห้ามขายแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทุกที่ กระทบอยู่แล้ว รวมถึง งดหรือเลื่อนงานกิจกรรมสังสรรค์ ก่อนหน้านี้ก็เคยประเมินว่าเสียหายเป็นแสนล้านบาทต่อเดือน สำหรับธุรกิจบันเทิงและธุรกิจที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย แต่สมาชิกสมาคมฯก็หารือกัน และยอมรับได้หากเป็นการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด แต่ที่อยากให้คำนึงคือ การปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักร ให้อำนาจผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัด เห็นชอบนั้น หากให้ยึดหลักเป็นธรรม รอบคอบ เหมาะสม และคำนึงถึงมิติทางเศรษฐกิจอย่างที่นายกรัฐมนตรีกล่าวไว้ อย่างมองว่า แอลกอฮอล์ เป็นผู้ร้าย เพราะแม้ปิดบางพื้นที่ นักดื่มบางส่วนก็จะหาที่ดื่มในพื้นที่ ที่ไม่ปิด หรือแสวงซื้อ มาดื่มแทน ซึ่งทำให้การแพร่กระจายเชื้อไปในหลายพื้นที่มากขึ้น

“ ส่วนตัวผมเชื่อว่าระยะ 28-30 วันจากนี้ หรือกลางเดือนพฤษภาคม ตัวเลขผู้ติดเชื้อน่าจะเบาบางและสถานการณ์คลี่คลายมากขึ้น และอาการการติดเชื้ออาจไม่รุนแรงเท่าครั้งก่อนๆ หากทุกคนคำนึงถึงมาตรการป้องกันและเว้นระยะห่าง แม้กับคนในกลุ่มครอบครัวหรือเพื่อน เพราะจากการสังเกตของอาการเจ็บป่วยของผู้ติดโควิด จะไม่มีไข้ แล้วจะหายไปในที่สุด คนไม่น่าจะตกใจมากนักจากนี้ ดูจากภาวะตลาดหุ้น และการใช้ชีวิตยังไม่ได้กังวลถึงหยุดซื้อหรือเดินทาง เพียงแต่เราควบคุมจำนวนให้ลดลงได้มากที่สุด ซึ่งการดูแลไม่ให้การแพร่ระบาดกระจาย เห็นได้ว่าอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน( อสม.) เข้ามามีบทบาทได้มาก “ นายธนากร กล่าว

นายธนากร กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากให้รัฐบาลทำควบคู่กันไปจากการลดการแพร่ระบาด คือ มาตรการช่วยเหลือและเยียวยากลุ่มแรงงานหรือธุรกิจที่ต้องประสบปัญหาจากการลดเวลาเปิดหรืองดกิจกรรม อาทิ นักแสดงตามห้องอาหาร เด็กเสิร์ฟ เด็กทำความสะอาด เป็นต้น ว่าจะช่วยเหลือค่าใช่จ่ายความเป็นอยู่ได้อย่างไร น่าจะออกมาตรการช่วยเหลือระยะสั้นได้ทันที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image