สทท. วอนรัฐคุมโควิดภายใน พ.ค.นี้ หวั่นยืดเยื้อกระทบแผนเปิดประเทศ

สทท. วอนรัฐคุมโควิดภายใน พ.ค.นี้ หวั่นยืดเยื้อกระทบแผนเปิดประเทศ

นายวิชิต ประกอบโกศล รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า หลังจากเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ขึ้น ถือว่าส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ทั้งประชาชนในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่อยู่ในระหว่างการติดตามสถานการณ์ และเตรียมพร้อมในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยหวังว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมการระบาดให้ได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ หรือระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ เพื่อให้สามารถเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แบบไม่ต้องกักตัว ได้ทันวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลประกาศไว้ ซึ่งหากรัฐเร่งนำเข้าวัคซีนและฉีดให้กับประชาชนในประเทศอย่างรวดเร็ว ถือว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะทำได้ทัน

“การนำเข้าวัคซีนต้านไวรัสให้เพียงพอกับจำนวนประชากรในประเทศ หรืออย่างน้อยต้องสามารถฉีดให้ได้มากกว่า 70% จากจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ในการรับมือกับการระบาดโควิด เพราะแม้จะคุมได้ดี แต่หากยังไม่ได้รับการฉีวัคซีน ก็จะกลับมาระบาดใหม่ซ้ำๆ อยู่แบบนี้ โดยรัฐบาลจะต้องวางแผนและกำหนดการฉีดวัคซีนให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถบริหารจำนวนวัคซีนที่นำเข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งหากรัฐบาลไม่ต้องการให้การระบาดโควิดระลอก 3 นี้ กระทบกับไทม์ไลน์ในการเปิดประเทศรับต่างชาติในเดือนกรกฎาคมนี้ รัฐบาลจะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับคนในภูเก็ต อย่างน้อย 70% ตามกำหนด ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จเร็วที่สุด หรือช้าต้องไม่เกินเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้ทันเปิดประเทศในเดือนกรกฎาคม 2564” นายวิชิต กล่าว

นายวิชิต กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลควรต้องเปิดโอกาสให้เอกชนหรือโรงพยาบาลเอกชน เข้าร่วมในการบริหารจัดการวัคซีน โดยเฉพาะการระดมฉีดให้กับคนในประเทศ เพราะประเมินแล้วพบว่า หากร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลรัฐและเอกชน น่าจะสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้รวดเร็ว มากกว่ากำหนดให้โรงพยาบาลรัฐดำเนินการอย่างเดียว รวมถึงการเปิดช่องให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและความพร้อม ในการนำวัคซีนมาฉีดให้กับพนักงานของตัวเอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเตรียมพร้อมในการให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพราะจากที่หารือกับพันธมิตรในธุรกิจวงการเดียว พบว่าผู้ประกอบการหลายรายมีความพร้อมมาก รอเพียงได้รับการอนุญาตจากรัฐเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image