‘พิพัฒน์’ ย้ำเปิดประเทศรับต่างชาติแบบไร้กักตัว นำร่อง ‘ภูเก็ต’ 1 ก.ค. นี้แน่นอน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ซึ่งจะนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ผ่านโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น ยังคงยืนยันในกำหนดการเดิม หลังจากได้รับรายงานจากนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถึงผลการหารือร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รวมถึงทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยจากนี้จะหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้จัดหาวัคซีนต้านไวรัส เพื่อกระจายฉีดให้กับประชาชนในจังหวัดภูเก็ตให้ได้ 9.5 แสนโดส ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ภายในเดือนมิถุนายนนี้
“ภายในสัปดาห์นี้จะหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เพื่อพิจารณาจัดหาวัคซีนต้านโควิด ให้กับจังหวัดภูเก็ตตามเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันจากนายกรัฐมนตรี แล้วว่า ในไตรมาส 2 นี้ ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ประเทศไทยจะมีวัคซีนซิโนแวคเข้ามาเพิ่มอีก 2.5 ล้านโด และในเดือนมถุนายนนี้ จะมีวัคซีนล็อตใหญ่จากแอสตราเซเนกาเข้ามาเพิ่มอีก จึงคาดว่าจะทำให้ประเทศไทยมีวัคซีนเพียงพอในการนำมากระจายฉีดให้กับคนในภูเก็ตได้ ซึ่งล่าสุดทางจังหวัดได้ฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 1 แสนโดสแล้ว” นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทยนั้น ซึ่งจะใช้ได้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ขณะนี้ททท. คาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนเริ่มจองสิทธิได้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2564 ส่วนจะเป็นวันที่เท่าใดนั้น ยังต้องติดตามอีกครั้ง เพราะมีประเด็นเรื่องการเชื่อมต่อข้อมูลระบบสแกนใบหน้ากับทางกระทรวงมหาดไทยตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องเชื่อมต่อให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะเคาะวันเปิดจองสิทธิอย่างเป็นทางการได้ ด้านการเปิดให้ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการทัวร์เที่ยวไทย น่าจะเริ่มลงทะเบียนได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ ส่วนผลกระทบการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 นั้น ขณะนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะแม้จะเปิดจองได้ตามกำหนดการ แต่นักท่องเที่ยวไทยก็ยังไม่สามารถออกเดินทางได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อในหลายๆ จังหวัดมีมาตรการควบคุมการเดินทาง อาทิ หากเดินทางมาจากพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด จะต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งอาจส่งผลให้คนยังไม่อยากเดินทางได้ รวมถึงอาจมีการขยายเวลาใช้ทั้ง 2 โครงการ ได้ถึงเดือนกันยายนนี้แทน
“ททท. อาจต้องปรับเป้าหมายตัวเลขการสร้างรายได้ท่องเที่ยวของไทยในปี 2564 ลง หลังภาคท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดระลอก 3 เพราะประเมินแล้วพบว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 2 ยังมีจำนวนการค้างสิทธิประมาณ 1.8 แสนสิทธิซึ่งยังไม่สามารถเดินทางได้ภายในเดือนเมษายนนี้ ขณะที่การระบาดระลอก 2 ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก็ทำให้ตัวเลขรายได้หายไปในช่วง 2-3 เดือนแรก โดยต้องหารือร่วมกับรมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และภาคเอกชนท่องเที่ยวก่อน เพื่อประเมินผลกระทบ วางแผนเดินหน้า และกำหนดเป้าหมายร่วมกัน” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
