‘ดับบลิวเอชเอ’ ออกหุ้นกู้กว่า 4 พันลบ. โชว์กระแสตอบรับทะลัก หลังเห็นยอดจองซื้อล้น 4 เท่า

ดับบลิวเอชเอออกหุ้นกู้กว่า 4 พันลบ. โชว์กระแสตอบรับทะลัก หลังเห็นยอดจองซื้อล้น 4 เท่า

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ในการเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2564 มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท หลังจากที่เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 19 – 21 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อบริษัทฯ ซึ่งเป็นผลมาจากแผนการขยายธุรกิจที่มีความต่อเนื่องและชัดเจน ความมุ่งมั่นในการบริหารงาน ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง การมีวินัยทางการเงิน และการบริหารจัดการฐานะทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงตอบโจทย์ความน่าเชื่อถือของนักลงทุนได้ โดยเม็ดเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินไปชำระคืนหนี้เดิม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานต่อไป

นางสาวจรีพร กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2564 มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาใน 4 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจโลจิสติกส์ที่สดใส มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าให้การบริการผ่านการผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ การให้บริการด้านโลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมขยายพื้นที่เพิ่มเติมรองรับการลงทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวได้แบ่งเป็น 3 ชุด โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 จำนวน 1,000 ล้านบาท มีอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.30% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 ชุดที่ 2 จำนวน 2,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.73% ต่อปีครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 และชุดที่ 3 จำนวน 1,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 โดยหุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ A- เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 ซึ่งอันดับเครดิตสะท้อนสถานะในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ในธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงฐานรายได้ประจำจำนวนมากจากธุรกิจสินทรัพย์ให้เช่าธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและไฟฟ้า ตลอดจนความยืดหยุ่นทางการเงินจากการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image