โควิดสาหัส ‘พิพัฒน์’ ยกธงขาว ยอมหั่นเป้ารายได้ท่องเที่ยว ฮวบเหลือ 8.5 แสนลบ.

โควิดสาหัส ‘พิพัฒน์’ ยกธงขาว ยอมหั่นเป้ารายได้ท่องเที่ยว ฮวบเหลือ 8.5 แสนลบ.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากประชุมร่วมกับผู้บริหารภายในกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวนั้น เบื้องต้นมีข้อสรุปคือ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ทำการปรับลดเป้าหมายรายได้รวมทั้งปี 2564 เหลือ 8.5 แสนล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะทำได้ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท รวมถึงปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาเที่ยวไทยเหลือ 4 ล้านคน จากเดิม 6.5 ล้านคน ส่วนตลาดไทยเที่ยวไทย คาดว่าจำนวนการเดินทางเที่ยวในประเทศจะลดลงเหลือ 120 ล้านคนครั้ง จากเดิม 160 ล้านคนครั้ง ขณะที่ยังยืนยันว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ผ่านโมเดลแซนด์บ๊อกซ์ ที่จังหวัดภูเก็ต จะผลักดันให้เกิดขึ้นภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ให้ได้ แต่จากการประเมินการระบาดโควิดระลอก 3 นี้ เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ในหลักพัน โดย วันที่ 23 เมษายน ยอดผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ จำนวน 2,070 คน ก็ประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติคงเข้ามาไม่ถึง 6.5 ล้านคนตามที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม เหลือเพียง 4 ล้านคนเท่านั้น แต่หากสามารถสถานการณ์ดีขึ้น ก็อาจมีการประเมินขยับคาดการณ์ขึ้นอีกครั้งได้

นายพิพัฒน์ กล่าว การเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น ขึ้นอยู่กับการฉีดวัคซีนให้กับคนในภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยได้รับข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ว่าขณะนี้ได้ทำการเจรจากับบริษัทผลิตวัคซีนต้านไวรัส  เพื่อสั่งซื้อและนำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะประสานเพื่อขอกันวัคซีนไว้ตามจำนวนที่กำหนดอีก 8.5 แสนโดส เพื่อฉีดให้คนภูเก็ต และดำเนินการตามแผนเปิดประเทศที่วางไว้ โดยในการเปิดประเทศ ช่วงไตรมาส 3/2564 เริ่มเดือนกรกฎาคมนั้น จะเปิดนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตก่อน และไตรมาส 4/2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จะเพิ่มจังหวัดนำร่องเป็น 6 จังหวัด เพื่อรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิดครบ 2 โดสแล้ว แบบไม่มีการกักตัว ซึ่งคาดว่าเมื่อเปิดรับต่างชาติมาเที่ยวไทยได้แล้ว ภาพรวมการท่องเที่ยวน่าจะปรับดีขึ้น

การระบาดโควิดส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวตั้งแต่ระลอกแรกในปี 2563 ก่อนจะระบาดระลอก 2 ในช่วงปลายปี2563 ต่อเนื่องถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จึงสามารถควบคุมได้ ทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเดือนมีนาคม จนถึงต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา พบการระบาดโควิดระลอก 3 ขึ้น ส่งผลกระทบกับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมานายพิพัฒน์ กล่าว

Advertisement

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มเติม หลังจากสถานการณ์การระบาดโควิดคลายตัวแล้ว ขณะนี้มี 2 โครงการที่เตรียมออกมาในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ ได้แก่ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ที่เพิ่มจำนวนห้องพัก 2 ล้านห้อง และขยายเวลาใช้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 และทัวร์เที่ยวไทย ซึ่งรัฐบาลจะสมทบเงินในการเดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์นำเที่ยว 40% จากมูลค่าทั้งหมด สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท จำนวน 1 ล้านสิทธิเพื่อกระตุ้นการเดินทางในวันธรรมดามากขึ้น

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิดต่อเนื่องจากระลอก 2 จนถึงระลอก 3 ในปัจจุบัน ทำให้ช่วงสงกรานต์ที่คาดว่าการเดินทางจะฟื้นตัวกลับมา ก็ต้องหยุดลงอีก จึงปรับลดเป้าหมายทั้งในแง่รายได้รวมและจำนวนนักท่องเที่ยวลง แต่จะเห็นว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปรับลดลงเหลือ 4 แสนล้านคน จาก 6.5 ล้านคน คิดเป็นรายได้ที่ลดลงเพียง 5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น  เพราะยังคาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีจะอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะทำได้ที่ 3.5 แสนล้านบาท เพราะได้วางแผนในการดึงเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงเท่านั้น จากปกติที่ใช้จ่ายประมาณ 5 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป เพิ่มขึ้นเป็น 6 หมื่นถึง 1 แสนบาทต่อคนต่อทริป

การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านโมเดลภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ยังตั้งเป้าไว้ตามเดิม แต่หากติดปัญหาเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนให้คนในพื้นที่ได้ไม่ตามเป้า อาจปรับเป็นเปิดพื้นที่ในบางอำเภอก่อนจากทั้งสิ้นที่มี 3 อำเภอ รวมทั้งได้หารือถึงการเตรียมขยายพื้นที่นำร่องรวมที่กรุงเทพฯ เพชรบุรี และหัวหิน ด้วย โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้ลดเป้าเหลือ 4 ล้านคนนั้น จะดึงเข้ามาในไตรมาส 3/2564 จากเดิม 1 แสนคน ให้เพิ่มขึ้นเป็น 1.29 แสนคน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 3 ล้านคนก็จะดึงเข้ามาในไตรมาส 4 ให้ได้ ซึ่งขณะนี้ ททท. อยู่ระหว่างเตรียมการเจรจาร่วมกับอีกหลายประเทศนายยุทธศักดิ์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image