ผู้ประกอบการค้าไทย-ลาวเดือดร้อนหนัก เร่งแก้ไขประกาศคำสั่งจังหวัด เรื่องขนถ่ายสินค้า

ผู้ประกอบการค้าทั้งไทยและ สปป.ลาว ได้รับความเดือดร้อน หลังมีประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ที่ 12/2564 ออกมา ที่มีมาตรการให้การขนส่งสินค้าระหว่างผู้ประกอบการไทย-ลาว ต้องขนถ่ายสินค้ากันภายในศูนย์ควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคายเท่านั้น ไม่ให้ไปขนส่งสินค้าตามโกดังที่อยู่ภายในตัวเมืองหนองคาย เหมือนที่ผ่านมา ได้มีการเสนอปัญหาความเดือดร้อน รวมทั้งแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย เพื่อแก้ไขเป็นการด่วนแล้ว

จากที่ได้มีคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ที่ 12/2564 เรื่อง มาตรการข้อกำหนดการปฏิบัติสำหรับผู้ขนส่งสินค้าที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคดรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดหนองคาย ที่มีมาตรการก่อนเดินทางเข้ามาในไทย ให้ผู้ขนส่งสินค้าแสดงเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ได้แก่หนังสือแสดงการขนสินค้า ซึ่งระบุเวลาที่จะเข้ามาและเดินทางกลับ ระบุชนิดและจำนวนสินค้า ชื่อสกุลและสถานที่ที่สามารถติดต่อได้ของผู้ขนส่งสินค้า ผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า นอกจากนี้ยังมีมาตรการเมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร คือให้ผู้ขนส่งสินค้าปฏิบัติภารกิจในการขนส่งสินค้าในราชอาณาจักรเท่าที่จำเป็น เมื่อเสร็จแล้วให้กลับโดยเร็ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองอาการทางเดินหายใจ และวัดไข้ผู้ขนส่งสินค้า ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร และให้ผู้ขนส่งสินค้านำยานพาหนะไปจนและขนส่งสินค้า ณ จุดที่กำหนด คือศูนย์ควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคายเท่านั้น รวมทั้งให้ใช้ระบบติดตามหรือแอพพลิเคชันตามที่ทางราชการกำหนด ซึ่งคำสั่งฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2564 จนถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2564

จากคำสั่งฯ ที่ 12/2564 นี้ทำให้ผู้ประกอบการทั้งไทยและ สปป.ลาว ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการทั้งไทย-ลาว จึงได้มีการรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมแนวทางแก้ไขส่งให้กับด่านศุลกากรหนองคาย เพื่อนำเสนอในที่ประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย เพื่อให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นประกอบด้วย เนื่องจากช่วงนี้กำลังเข้าสู่ฤดูฝน เมื่อมีฝนตก ทำให้เกิดความยากลำบากในการขนส่งสินค้ากลางแจ้ง อีกทั้งบริเวณศูนย์ควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย ไม่มีสถานที่ขนถ่ายสินค้าในที่ร่ม ทำให้สินค้าได้รับความเสียหาย และสินค้าบางชนิดที่มีน้ำหนักมากเช่นอุปกรณ์ในการก่อสร้าง แท่งเหล็ก แผ่นเหล็กขนาดใหญ่ ต้องใช้รถโฟล์กลิฟท์ ยกขนถ่ายสินค้า เป็นเหตุไม่ได้รับความสะดวกในการขนย้ายสินค้า

ประกอบกับผู้ประกอบการหลายราย มีโกดังสินค้าไม่ห่างไกลจากด่านศุลกากรมากนัก จึงมีความประสงค์ในการนำรถขนส่งสินค้าทะเบียน สปป.ลาว ไปขนย้ายสินค้าที่โกดังของตนเอง จึงขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่ง เพิ่มเติม “เว้นแต่ผู้ขนส่งสินค้าจะมีหนังสือรับรองการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 เป็นลบอย่างน้อย 73 ชั่วโมงและสามารถนำมาใช้ได้ภายใน 7 วัน (ถ้าเกินต้องตรวจใหม่) โดยผู้ขนส่งสินค้าสามารถเข้ามาขนถ่ายสินค้าในเขตพื้นที่ตำบลมีชัย และตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยในเรื่องนี้ได้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย แล้ว คาดว่าจะมีการเพิ่มเติมคำสั่งฯ ตามแนวทางแก้ไขที่ผู้ประกอบการร้องขอ และจะได้ประกาศเป็นคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ต่อไป

Advertisement

นายสันติ พูมมะเทบ อายุ 46 ชาว สปป.ลาว ผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งสินค้า กล่าวว่า หลังจากที่มีมาตรการในการขนส่งสินค้า ให้ขนถ่ายสินค้า ที่บริเวณศูนย์ควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย ลำบากมาก ทั้งแดดร้อน และฝนตก สินค้าก็เสียหายได้ อีกทั้งยังเป็นการเสียเวลาในการขนถ่ายสินค้าหลายครั้ง บางครั้งทำให้ส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด ซึ่งเดิมนั้นจะนำรถเข้าไปขนถ่ายสินค้าภายในโกดังที่อยู่ในจังหวัดหนองคาย ได้โดยตรง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image