แบงก์ชาติ เผย 6 วัน หลังเปิดตัวโอนเงินพร้อมเพย์ ไทย-สิงคโปร์ ยอดรวม 11 ล้านบาท

แบงก์ชาติ เผย 6 วัน หลังเปิดตัวโอนเงินพร้อมเพย์ไทย-สิงคโปร์ ยอดรวม 11 ล้านบาท

วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดบริการโอนเงินพร้อมเพย์ไปยังต่างประเทศ ระหว่างพร้อมเพย์ ประเทศไทย กับเพย์นาว ประเทศสิงคโปร์แล้ว ธปท.อยู่ระหว่างการขยายไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน แต่ต้องใช้เวลาเนื่องจากระบบมีความซับซ้อน โดยประเทศที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินเหมือนกับไทยและสิงคโปร์ คือ ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ส่วนประเทศกัมพูชา และสปป.ลาว กำลังพิจารณาจัดตั้งขึ้น

“ก่อนหน้านี้ทางธปท.ได้ลงนามความร่วมมือการชำระเงินผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดในต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีให้บริการแล้วในประเทศสปป.ลาว กัมพูชา ญี่ปุ่น และเวียดนาม และในปีนี้จะมีอีก 2 ประเทศ คือมาเลเซียและอินโดนีเซีย”

ทั้งนี้ในช่วง 6 วันแรกที่เริ่มเชื่อมพร้อมเพย์ไทยกับสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.-4 พ.ค.64 มีปริมาณ 3,000 รายการ มูลค่า 11 ล้านบาท เฉลี่ย 3,700 บาทต่อรายการ โดยมีค่าธรรมเนียม 150 บาท ถูกกว่าการโอนเงินรูปแบบปกติ จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 300-1,000 บาท และอาจปรับลดค่าธรรมเนียมต่ำลงได้อีกในระยะข้างหน้า รวมทั้งอาจปรับเพดานโอนเงินต่อรายการเพิ่มขึ้น จากเพดานโอนเงินไทยไปสิงคโปร์ไม่เกิน 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อรายการต่อวัน และโอนจากสิงคโปร์มาไทยไม่เกิน 25,000 บาทต่อรายการ ขณะเดียวกันในอนาคตจะมีธนาคารอื่นๆเข้าร่วมเพิ่มเติมด้วย

น.ส.สิริธิดา กล่าวว่า ความคืบหน้าพร้อมเพย์ในไทย ปัจจุบันมีการลงทะเบียนพร้อมเพย์แล้ว 56.7 ล้านหมายเลข แบ่งเป็นหมายเลขบัตรประชาชน 34.3 ล้านหมายเลข ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งประชากรไทยทั้งหมด และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 21.4 ล้านหมายเลข ส่วนที่เหลือ 1 ล้านหมายเลขเป็นหมายเลขอื่น ๆ โดยการใช้งานเพิ่มขึ้นจากที่เปิดให้บริการเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก จากเดิมเฉลี่ยไม่ถึง 10 ล้านรายการต่อวัน แต่ปัจจุบันมียอดใช้เฉลี่ย 22.3 ล้านรายการต่อวัน มูลค่าเฉลี่ย 80,400 ล้านบาทต่อวัน

Advertisement

ขณะที่การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังทำให้ยอดใช้พร้อมเพย์สูงสุดถึง 27.1 ล้านรายการต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิดที่มีไม่ถึง 20 ล้านรายการต่อวัน โดยปัจจุบันมีร้านค้ารับชำระเงินด้วยพร้อมเพย์ทั้งสิ้น 7 ล้านร้านค้า และมีมูลค่าเฉลี่ยต่อรายการ 3,600 บาท โดย 90% เป็นยอดรายการโอนต่ำกว่า 1,000 บาท ทำให้เห็นว่าพร้อมเพย์เข้ามาในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน

“การโอนเงินระหว่างประเทศนอกจากรายย่อยแล้วจะไปสู่ภาคธุรกิจในอนาคต หากมีปริมาณธุรกรรมเพิ่มเติมและพัฒนาระบบชำระเงิน หรือยกเพดานธุรกรรมเพิ่มมากขึ้น โดยธปท.จะติดตามดูใกล้ชิด เป็นการต่อยอดบริการพร้อมเพย์ต่างๆ พัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อทำธุรกรรมการเงินได้สะดวกมากขึ้น” น.ส.สิริธิดา กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image