กรอ.ร่วมกับภาคเอกชนจัด 2 งานเทคโนโลยี รับบีซีจี อีโคโนมี 14-16 ต.ค.นี้

กรอ.ร่วมกับภาคเอกชนจัด 2 งานเทคโนโลยี รับบีซีจี อีโคโนมี 14-16 ต.ค.นี้

นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในช่วงปีที่ผ่านมาและปัจจุบัน ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายฝ่ายทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจหันมาใส่ใจกับสุขอนามัยสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่ง กรอ.มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรมที่เป็นไปตามเทรนด์ของตลาดและผู้บริโภคที่มุ่งสู่เทคโนโลยีดิจิทัล และให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กรอ.จึงมีแผนพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมโดยการส่งเสริม สนับสนุน ให้ธุรกิจอุตสาหกรรมมีศักยภาพในการแข่งขันและพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นที่ยอมรับของสากล เน้นเทคโนโลยีการผลิต สิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์พลังงาน ความปลอดภัย วัตถุอันตราย และสารเคมี เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและพันธกรณีข้อตกลงระหว่างประเทศ อีกทั้งยังตอบสนองต่อนโยบาย BCG Economy ของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) และการพัฒนาเมืองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน

“กรอ.ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันและขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) ให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้ประเทศไทยมีต้นแบบเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรมไม่น้อยกว่า 40 พื้นที่ ใน 37 จังหวัด โดยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาในพื้นที่อุตสาหกรรมหนาแน่นและมีศักยภาพในการพัฒนา รวมทั้งเขตประกอบการและสวนอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพื่อมุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน และอยู่ร่วมกับประชาชนได้ด้วยมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีคุณค่าต่อสังคม (Eco Factory plus Social Value : Eco Factory+SV) และอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการบริหารจัดการของเสียในกระบวนการผลิตอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2565 ซึ่ง กรอ.ได้มีการส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมแต่ละแห่งพัฒนาตามแนวคิดอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Industrial Ecology) มุ่งเน้นการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการ มีการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กรตลอดห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมความรู้เทคโนโลยี ปั๊มอุตสาหกรรม ความปลอดภัย และวัตถุอันตราย ที่สอดคล้องกับพันธกิจของ กรอ.ผ่านการสนับสนุนการจัดงาน “Pumps and Valves Asia 2021 และ Thai Water Expo 2021” อธิบดีกรมโรงงานฯ กล่าว

สำหรับงาน “Pumps and Valves Asia 2021”เป็นงานแสดงเทคโนโลยีเฉพาะทางด้าน ปั๊ม วาล์ว ท่อ ข้อต่อ และงาน “Thai Water Expo 2021” ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติด้านเทคโนโลยีการบริหารจัดการน้ำและน้ำเสียงานเดียวในประเทศไทยที่ กรอ.ร่วมสนับสนุนการจัดงานมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามปกติแล้วงานดังกล่าวจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ จึงได้เลื่อนไปจัดระหว่างวันที่ 14-16 ต.ค.2564 เพื่อรอดูสถานการณ์ว่าคลี่คลายไปทางใด โดยปีนี้เป็นปีที่ 8 ซึ่งถือเป็นเวทีจัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับภาคอุตสาหกรรมการผลิต รวมถึงด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของ กรอ.ในการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ หรือ BCG Economy

ทั้งนี้ งาน “Pumps and Valves Asia 2021 และงาน Thai Water Expo 2021 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 -16 ตุลาคม 2564 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม และบริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ถือเป็นงานแสดงนวัตกรรมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่และครบครันที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยปีนี้ได้รวบรวมเทคโนโลยีปั๊มอัจฉริยะ (Smart Pump) ที่เป็นตัวกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรม พร้อมนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดที่เกี่ยวข้อง อาทิ การบำรุงรักษาปั๊มเชิงรุก การวิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียด ช่วยลดเวลาทำงาน ประหยัดพลังงาน ประหยัดต้นทุน นำเสนอแพลตฟอร์มโซลูชั่นและเทคโนโลยีล่าสุดของปั๊มวาล์ว และอุปกรณ์ทันสมัย ให้กับผู้เยี่ยมชมงานและผู้ซื้อคุณภาพจากทั่วประเทศไทยและทั่วโลกผ่านการจัดงานแบบไฮบริดทั้งบนพื้นที่จัดงาน และออนไลน์ โดยจัดร่วมกับงาน Thai Water Expo 2021 ที่เน้นการแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยี และการประชุมนานาชาติด้านการบริหารจัดการน้ำและน้ำเสียโดยเฉพาะ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุกสองปี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image