หุ้นไทยเจอแรงกระแทกหนัก ดัชนีลบ 70.83 จุด

/แฟ้มภาพ

หุ้นไทยเจอแรงกระแทกหนัก ดัชนีลบ 70.83 จุด

วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,571.85 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบก่อนปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,556.81 จุด และเปิดตลาดภาคบ่ายมาด้วยการเคลื่อนไหวในแดนลบอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีปรับลดลง 70.83 จุด หรือ 4.01% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,561.80 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,501.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 128,805.01 ล้านบาท

โดยนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดการซื้อขาย ก่อนจะถูกกระแทกแรงๆ จนร่วงลงทำจุดต่ำสุดกว่า 70 จุด แตะระดับ 1,501.02 จุด โดยสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับลดลงแรงๆ เป็นปัจจัยจากต่างประเทศล้วนๆ ซึ่งปัจจัยกดดันหลักคือ ความกังวลภาวะเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริการ ทำให้หุ้นถูกขายออก เพราะเป็นแรงกังวลที่ทำให้เกิดภาวะเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา ซึ่งถือเป็นภาวะที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ สะท้อนได้จากตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลง 2% หุ้นยุโรปลดลง 2% ส่วนหุ้นไทยลดลงแล้ว 3.9% โดยให้แนวรับถัดไปที่ระดับ 1,480 จุด ส่วนกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ รอลงทุนในแนวรับที่ให้ไว้ และเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ ได้แก่ กลุ่มแบงก์ ไฟแนนซ์ ค้าปลีก พลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังสามารถลงทุนได้ แต่แนะนำให้รอการปรับน้ำหนักดัชนีเอ็มเอสซีไอ ที่จะประกาศออกมาในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ก่อน

“แรงกดดันจากต่างประเทศ บวกกับแรงกดดันเฉพาะในประเทศคือ การที่ดัชนีหุ้นไทยหลุดแนวรับจิตวิทยาที่สำคัญในระดับ 1,530 จุด รวมถึงในช่วงที่ผ่านมาเห็นหุ้นไทยขนาดใหญ่ถูกขายทำกำไรออกมาอย่างเดียว แต่ในตอนนี้เริ่มเห็นหุ้นขนาดกลางและเล็ก เจอแรงขายออกมาด้วย ซึ่งเป็นทั้งแรงขายทำกำไร และแรงขายเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้เงินหายเพิ่มเติมอีก ทั้งยังมีความเสี่ยงเฉพาะจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งเป็นการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่แบบกลุ่ม (คลัสเตอร์) ในหลายพื้น และการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ไม่ได้ออกมาดีมากนัก จึงทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่สดใสมากนัก” นายณัฐพล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image