“COM7” โวไตรมาสแรกปีนี้กวาดกำไรเกือบ 600 ล้านโตเกือบ 100% ประกาศเพิ่มเป้ารายได้เป็น 20%

“COM7” โวไตรมาสแรกปีนี้กวาดกำไรเกือบ 600 ล้านโตเกือบ 100% ประกาศเพิ่มเป้ารายได้เป็น 20%

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดประจำไตรมาส 1/2564 มีรายได้รวม 11,989.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 8,195.6 ล้านบาท กําไรขั้นต้น 1,558.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,123 ล้านบาท กําไรส่วนของบริษัทใหญ่ เท่ากับ 565.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 287.9 ล้านบาท นับเป็นการเติบโตอย่างน่าประทับใจ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิต-19 แต่ COM7 ยังสามารถปรับตัวได้ดี และมียอดขายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เติบโต เนื่องจากสินค้าไอทีกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การทำงาน การเรียนการสอน และไลฟ์สไตล์ โดยสินค้าที่ได้รับการตอบรับในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการ Work from Home, Learn from Home และ Cryptocurrency (สกุลเงินดิจิทัล) ควบคู่การบริหารจัดการสินค้าให้เพียงพอ และนำสินค้าใหม่เข้ามาเสริมพอร์ต ผลักดันการเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้

นายสุระกล่าวว่า ไฮไลท์สำคัญในไตรมาส 1/2564 COM7 ได้มีข้อตกลงการฝากขาย สินค้าทุกประเภทในแบรนด์ Xiaomi ที่ไม่ใช่สินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน ผ่านทุกช่องทางหน้าร้านของ True Shop ทั่วประเทศ ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันยอดขายที่เพิ่มขึ้น เติมเต็มพอร์ตสินค้าด้าน IoT และนวัตกรรม รวมทั้ง ผลตอบรับจาก iPhone12 ที่ยังคงความร้อนแรงต่อเนื่อง จากการเปิดตัวในช่วงปลายปี 2563 ที่ล่าช้ากว่าในรุ่นก่อน แต่สินค้าได้ผลตอบรับที่ดีมาก

นายสุระกล่าวว่า ส่วนช่องทางการจำหน่ายยังคงแข็งแกร่ง จากตัวเลขการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sales Growth : SSSG) ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในไตรมาส 1 ปีนี้ ส่งผลกระทบต่อ COM7 น้อยมาก เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1 ปีที่แล้ว อีกทั้ง COM7 มีร้านสาขาที่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล คิดเป็น 25% ส่วนที่เหลือจะเป็นร้านสาขาที่อยู่ต่างจังหวัด คิดเป็น 75% จึงยังคงมั่นใจ แผนเดินหน้าขยายสาขาในปีนี้ให้ทะลุ 1,000 สาขา จะยังคงเป็นไปตามที่วางไว้ โดยเน้นขยายสาขาในทําเลที่ดีและค่าเช่าเหมาะสม ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในอําเภอหลักและอําเภอรอง สนับสนุนโอกาสการเติบโตจากสินค้าเทคโนโลยี รวมทั้งการต่อยอดสินค้าและบริการอื่นๆ จากความได้เปรียบในการเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ

“นอกจากนี้บริษัทให้ความสำคัญในการขยายช่องทางออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ที่เติบโตขึ้น และช่องทางการขายของบริษัทฯ ผ่านเว็บไซต์ www.bnn.in.th ที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งาน รองรับการเติบโตในอนาคต และเชื่อมโยงการทำตลาดแบบ Omni Channel
โดยณ สิ้นไตรมาส 1/2564 มีสาขาภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท รวมทั้งหมด 920 สาขา แบ่งเป็น BaNANA 318 สาขา Studio7 107 สาขา KingKong Phone 92 สาขา True Shop by Com7 122 สาขา แฟรนไชส์ 108 สาขา BKK 50 สาขา iCare 28 สาขา และอื่นๆ 95 สาขา โดยมีการขยายเพิ่มจากไตรมาส 1 ปีที่แล้วรวม 132 สาขา (ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 : 788 สาขา) และณ สิ้นปี 2563 มีจำนวน 911 สาขา”นายสุระกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image