‘อิ๊กดราซิล’ ชี้ธุรกิจเกมมาแรง ‘Home Sweet Home’ ดันรายได้พุ่ง 141% หนุนกำไรไตรมาส 1/64 โต 19%

‘อิ๊กดราซิล’ ชี้ธุรกิจเกมมาแรง ‘Home Sweet Home’ ดันรายได้พุ่ง 141% หนุนกำไรไตรมาส 1/64 โต 19%

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ YGGเปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 13.2 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 60.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2563 ที่มีรายได้รวม 53.1 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีรายได้มาจากงานโฆษณาและภาพยนตร์จำนวน 28.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.42% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 19 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับงานทำโฆษณามากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานโฆษณาภายในตัวเกม ขณะที่มีรายได้จากเกมและอินโนเวชั่น 9.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 4.1 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้มีการวางจำหน่ายเกม Home Sweet Home Survive ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564

นายธนัช กล่าวว่า ส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น (Animation) ในไตรมาส1/64 บริษัทมีรายได้ 22.7 ล้านบาท ลดลง 24.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ จำนวน 30 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีพนักงานในส่วนภาพยนตร์บางส่วนได้ถูกโอนย้ายไปช่วยงานเกม Home Sweet Home Survive ทำให้งานภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่บริษัทรับงานลูกค้ามานั้น ได้เริ่มงานในเดือนมีนาคม 2564 จึงทำให้บริษัทรับรู้รายได้ไปตามสัดส่วนดังกล่าวในไตรมาส 1/64 โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากงานโฆษณาและภาพยนตร์ เท่ากับ 46.3% มีรายได้จากส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น 37.3% และมีรายได้จากส่วนงานเกมและอินโนเวชั่น 16.3%

“บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 โตต่อเนื่อง 15-20% โดยคาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจเกมมีแนวโน้มที่ดีและมีโอกาสเติบโตสูงขึ้น ซึ่งหลังจากบริษัทฯ ได้วางจำหน่ายเกม Home Sweet Home Survive ในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักเล่นเกมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนงานโฆษณาและภาพยนตร์ รวมทั้งงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น( Animation) ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพของทั้งบุคลากรและเทคโนโลยี ให้ทุกงานที่ผลิตออกมามีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากฐานลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นกลุ่มฐานลูกค้าหลัก รวมถึงบริษัทฯ ยังได้เพิ่มขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศด้วย” นายธนัช กล่าว

ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา หุ้นละ 0.08 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 14,400,000 บาท โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในเดือนมิถุนายน 2564

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image