ส.ภัตตาคารร้องรบ.จัดสรรวัคซีนฉีดให้คนในอุตสาหกรรมอาหารด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจ
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลส่งสัญญาณผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 โดยอนุญาตให้จังหวัดควบคุมสูงสุด สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึง 21.00 น. จำนวนไม่เกิน 25% และเปิดให้ขายอาหารแบบซื้อกลับบ้านได้ถึง 23.00 น. เบื้องต้นประเมินว่า เดิมยอดขายของธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 10-20% เท่านั้น เพราะยอดขายส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นรายได้จากการนั่งทานที่ร้านหายไปทั้งหมด หากรัฐบาลผ่อนคลายให้นั่งทานในร้านได้ 25% อาทิ จากปกตินั่งที่ร้านได้ 100 คน เหลือนั่งได้ 25 คน ยอดขายแบบนั่งทานที่ร้านน่าจะกลับมาได้ที่ 25% จากภาวะที่คนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลในการออกจากบ้านอยู่ โดยร้านอาหารจะต้องมียอดขายจากช่องทางอื่นร่วมด้วย อาทิ ออนไลน์ 20% ซื้อกลับบ้านอีก 5-10%
เนื่องจากผู้ประกอบการจะต้องพยายามขายของแบบบริการส่งแบบดิลิเวอรีด้วย เพื่อดึงยอดขายกลับมาอย่างน้อย 50% จะทำให้ธุรกิจไม่อยู่ในภาวะขาดทุนเหมือนที่ผ่านมาได้
นางฐนิวรรณ กล่าวว่า แม้รัฐบาลยังควบคุมการระบาดอีกทั้งเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ มองว่าผลกระทบต่อธุรกิจอาหารคงไม่ทรุดตัวลงมากกว่าเดิม ในกรณีที่รัฐบาลผ่อนคลายให้นั่งทานที่ร้านได้ เพราะร้านอาหารเป็นธุรกิจที่กลับมาเร็ว เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในชีวิตประจำวัน แต่เพราะธุรกิจที่จะฟื้นกลับมานั้น ยังต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนหลายเรื่อง อาทิ เศรษฐกิจรวมในประเทศ ความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของประชาชน โดยเชื่อว่า หากเดือนมิถุนายนนี้ รัฐนำเข้าวัคซีนเพิ่มขึ้น และเร่งฉีดให้กับประชาชนในประเทศเร็วและมากที่สุดได้ จะเป็นส่วนช่วยดันความเชื่อมั่นของทุกภาคส่วนกลับมา สมาคมฯ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรวัคซีนมาฉีดให้กับคนในอุตสาหกรรมอาหารด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ความเสี่ยงในการธุรกิจนี้มีน้อยมากแล้ว
