คณะกก.พีพีพี ไฟเขียว เดินทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต มูลค่า 1.4 หมื่นลบ. สัมปทาน 35 ปี

คณะกก.พีพีพี ไฟเขียว เดินทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต มูลค่า 1.4 หมื่นลบ. สัมปทาน 35 ปี

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการพีพีพี) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ พีพีพี ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 โดยเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

นางปานทิพย์ กล่าวว่า จากการประชุม คณะกรรมการพีพีพี ได้เห็นชอบในหลักการของโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร ในรูปแบบ ภาคเอกชนได้รับสิทธิ์ในการจัดเก็บรายได้ และจัดสรรผลตอบแทนบางส่วนให้แก่ภาครัฐตาม ( PPP net cost) ระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี (นับจากวันที่ กทพ. แจ้งให้เริ่มปฏิบัติงาน)

นางปานทิพย์ กล่าวว่า โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินวงเงิน 5,792 ล้านบาท ในขณะที่เอกชนรับผิดชอบการออกแบบรายละเอียด การก่อสร้าง และการดำเนินการและบำรุงรักษา โดยเอกชนจะโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมดให้แก่ภาครัฐก่อนเริ่มดำเนินงาน (BTO) ซึ่งโครงการนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุทางถนน แก้ปัญหาจราจร และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการเดินทางระหว่างเมืองภูเก็ตและหาดป่าตอง และมอบหมายให้ กทพ. เร่งรัดจัดทำข้อมูลเพื่อประกอบการเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป เช่น ความพร้อมเรื่องที่ดินของโครงการ พร้อมทั้งสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย

Advertisement

นางปานทิพย์ กล่าวว่า คณะกรรมการพีพีพี ยังรับทราบความคืบหน้าและเร่งรัดโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในกลุ่มโครงการพีพีพีที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน ตามแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน พ.ศ. 2563 – 2570 ให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่วางไว้ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดการลงทุนจากเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินกู้ ตลอดจนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชน จากความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมของเอกชน

นางปานทิพย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ คณะกรรมการพีพีพี ได้รับทราบแนวทางการกำหนดรายละเอียดในการวิเคราะห์ถึงหลักการและเหตุผลประกอบการพิจารณาความสำคัญของโครงการร่วมลงทุน ตามหลักเกณฑ์ในเรื่องการพิจารณาความสำคัญของโครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 – 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินโครงการในกลุ่มดังกล่าวภายใต้ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 มีกรอบการพิจารณาที่ชัดเจน และช่วยให้การดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะมีความคล่องตัว และเป็นไปตามแผนที่กำหนด

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image