บัญชีกลาง กำหนดแนวทางเบิกค่ายาใช้นอกสถานพยาบาล อำนวยความสะดวกช่วงโควิด

บัญชีกลาง กำหนดแนวทางเบิกค่ายา ใช้นอกสถานพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวก ลดความแออัด ในช่วงโควิด-19

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สถานพยาบาลหลายแห่งได้กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อลดความแอดอัดของผู้ป่วยที่เข้ารับบริการในสถานพยาบาล จึงได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการเบิกค่ายาหรือสารอาหาร เช่น ยาชีววัตถุและยาสังเคราะห์มุ่งเป้า ซึ่งเป็นยาฉีดหรือยาหยดเข้าทางเส้นเลือดหรือยาฉีดใต้ผิวหนัง ที่อยู่ในระบบเบิกจ่ายตรงค่ายาที่มีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบก่อนการอนุมัติเบิกจ่าย และกำหนดให้เบิกได้เฉพาะกรณีที่ใช้กับผู้ป่วยในขณะที่อยู่ในสถานพยาบาลเท่านั้น ดังนั้น เมื่อแพทย์มีความจำเป็นต้องสั่งยาเพื่อนำไปใช้นอกสถานพยาบาล สามารถเบิกค่ายาดังกล่าวจากทางราชการ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว และเป็นการลดความแออัดในสถานพยาบาล ในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

กรมบัญชีกลางจึงได้กำหนดแนวทางการเบิกค่ายาหรือสารอาหารเพื่อนำไปใช้นอกสถานพยาบาล ดังนี้

1.การพิจารณาสั่งใช้ยาให้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ซึ่งต้องเป็นไปอย่างเหมาะสม จำเป็นและปลอดภัยกับผู้ป่วย ซึ่งการให้ยาหรือสารอาหาร ผู้ป่วยต้องสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง หรือมีผู้ประกอบวิชาชีพสาขาอื่น เป็นผู้ให้ยาหรือสารอาหารแก่ผู้ป่วยที่บ้านหรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน โดยให้มีการติดตามการใช้ยาและบันทึกข้อมูลการใช้ยาดังกล่าวในเวชระเบียน สำหรับค่ายาหรือสารอาหารของผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังด้วยวิธีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ให้ปฏิบัติตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 450 ลงวันที่ 22 กันยายน 2563

2.การส่งเบิกค่ายาหรือสารอาหารเพื่อนำไปใช้นอกสถานพยาบาล ให้บันทึกข้อมูลในระบบเบิกจ่ายตรงตามรูปแบบและแนวปฎิบัติของหน่วยงานที่กรมบัญชีกลางมอบหมายกำหนด

Advertisement

“แนวทางการเบิกค่ายาหรือสารอาหารเพื่อนำไปใช้นอกสถานพยาบาล มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นไป รายละเอียดตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.2/ว 268 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ซึ่งกรมบัญชีกลางมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ พร้อมดูแลประชาชนในทุกสถานการณ์ และขอแสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งคนไทยทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปพร้อมกัน” นายประภาศ กล่าว

Advertisement

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image