‘ส.ภัตตาคาร’ อ้อนรัฐเยียวผลกระทบโควิด หลังประเมินแล้วธุรกิจยังทรุดต่อ 3-6 เดือน

‘ส.ภัตตาคาร’ อ้อนรัฐเยียวผลกระทบโควิด หลังประเมินแล้วธุรกิจยังทรุดต่อ 3-6 เดือน

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลอนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้ถึง 21.00 น. สัดส่วนไม่เกิน 25% ของภาพรวม และซื้อกลับบ้านได้ถึง 23.00 น. โดยมีข้อกำหนดหลักๆ คือ ต้องนั่งทานโต๊ะละ 1 คน เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะอย่างน้อย 2 เมตร จึงยังกดดันบรรยากาศการเข้ามาใช้บริการของลูกค้า ทำให้ยังคงเงียบเหงาอยู่ ซึ่งมองว่าภาวะที่คนส่วนใหญ่กังวลการระบาดโควิด-19 พยายามไม่ออกนอกบ้าน จนการใช้จ่ายซึมต่อนั้น น่าจะเป็นภาวะที่ภาคธุรกิจต้องประสบไปอีกอย่างน้อย 3-6 เดือน จนกว่าวัคซีนต้านไวรัสจะสามารถกระจายฉีดได้จำนวนหลายสิบล้านคน หรือเข้าใกล้สัดส่วนที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้น สมาคมฯ จึงต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม ได้แก่ การช่วยเหลือจากสำนักงานประกันสังคม ที่ควรต้องช่วยผ่อนภาระลงไปอีกระยะ มาตรการทางด้านสินเชื่อ เพื่อต่อลมหายใจให้กับธุรกิจ ผ่านการเข้าถึงเงินกู้ง่ายที่สุด และไม่ใช้เงื่อนไขพิจารณาอนุมัติเงินกู้แบบที่ใช้ในภาวะปกติ รวมถึงผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลมีการจดทะเบียนตามกฎหมาย และมีภาพถ่ายร้านอาหารประกอบ อาจสามารถข้อกู้ยืมได้ในจำนวนที่เหมาะสมกับขนาดของร้าน หรือตามงบดุลของธุรกิจ โดยส่วนนี้อาจขอเสนอผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นฝ่ายประสานข้อมูลกับรัฐบาลต่อไป

“การขอให้ภาครัฐอนุญาตให้นั่งกินที่ร้าน เพื่อช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กหรือขนาดย่อยสามารถเปิดร้านและมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อลดผลการขาดทุน และไม่ได้รับผลกระทบจากโควิดรอบ 3 จนต้องปิดตัวลง อาทิ เยาวราช ที่หากไม่มีโต๊ะให้นั่งทานที่ร้าน ลูกค้าจะหายไปเลย ทำให้รายได้หายไปตาม ซึ่งจะมีการสำรวจตามแหล่งร้านอาหารสำคัญๆ เพิ่มเติม ว่าบรรยากาศฟื้นกลับมาได้บ้างหรือไม่ รวมถึงเรื่องเร่งด่วนที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือคือ การข่วยต้นทุนคงที่ โดยเฉพาะรายจ่ายจำพวกค่าเช่าต่างๆ ซึ่งถือเป็นปัญหามากในตอนนี้ เพราะยอดขายอาหารลดลง สวนทางกับรายจ่ายในด้านอื่นๆ ที่ยังมีอยู่คงที่ ทำให้ภาระของผู้ประกอบการตึงตัวมาก จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาความช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วย” นางฐนิวรรณ กล่าว

นางฐนิวรรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังยืนว่า คนในธุรกิจร้านอาหาร มีความพร้อมและต้องการได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสกว่า 1 แสนคน จึงอยากให้รัฐบาลจัดสรรวัคซีนเบื้องต้น และฉีดให้กับคนร้านอาหารก่อน อาจเป็นการนำร่องในจำนวนที่กำหนดอย่างต่ำ 5 พันโดสก่อนก็ได้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นขึ้น หลังจากนั้นเชื่อว่าจะมีคนอีกจำนวนมากต้องการรับวัคซีนเพิ่มเติม ซึ่งส่วนนี้สมาคมฯ ยินดีเป็นผู้ดำเนินการใยการประสานกับผู้ที่ต้องการรับวัคซีน นำไปฉีดวัคซีนตามสถานที่ต่างๆ ที่รัฐกำหนดไว้ เพื่อทยอยลดความเสี่ยงในแต่ละภาคธุรกิจลง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image