‘สุพันธุ์’ หวั่นนักการเมืองสูบเงินทอนกู้7แสนล. วอนธปท.สะกิดแบงก์ช่วยธุรกิจ

‘สุพันธุ์’ จี้ธปท.สะกิดแบงก์ช่วยธุรกิจ หวั่นนักการเมืองสูบเงินทอนกู้7แสนล. วอนเร่งนำเข้า-วางแผนจนท.ฉีดวัคซีน

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19) ว่า ตอนนี้สิ่งที่ภาครัฐควรเร่งดำเนินการ คือ การผ่อนคลายมาตรการซอฟท์โลน และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ เพราะล่าสุดจากติดตามสถานการณ์การขอสินเชื่อของผู้ประกอบการพบปัญหาที่เหมือนกันคือ เวลานี้มีเพียงธนาคารของรัฐที่พิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ ลูกค้า ทั้งรายเก่าและรายใหม่ ขณะที่แบงก์เอกชนยังไม่ให้ความร่วมมือนัก ซึ่งปัญหานี้ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่สถานการณ์ไม่ดี ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุกวัน เกิดหนี้เน่าไปเรื่อย ดังนั้นอยากฝากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ ประสานกับแบงก์เอกชนให้ผ่อนคลาย ช่วยเหลือภาคธุรกิจ ขณะเดียวกันอาจมีการเปิดเผยข้อมูลแบงก์ที่ปล่อยกู้ยาก เพื่อให้แบงก์นั้นผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น

“อยากให้แบงก์เสียสละ ปัจจุบันกำไรสูง อยากให้ลงมาช่วยลูกค้ามากขึ้น ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ทั้งนี้แม้จะมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.เข้ามาค้ำประกันเอสเอ็มอี แต่แบงก์ก็ยังมองว่าโอกาสหนี้เสียสูง ไม่อยากรับภาระใดๆ เวลานี้จึงพยายามนิ่งเฉย และปล่อยกู้ให้น้อยที่สุด เป็นสถานการณ์ที่แย่ เอสเอ็มอีเจ๊งเพิ่มขึ้นทุกวัน อยากให้แบงก์เห็นใจภาคธุรกิจ ทุกวันนี้เครื่องมือรัฐออกมาครบแล้ว แต่รัฐทำข้างเดียวไม่ได้ แบงก์ต้องช่วยด้วย”นายสุพันธุ์กล่าว

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ล่าสุดสถานการณ์ความรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนที่เป็นชนชั้นกลางเริ่มมาขอให้ภาครัฐล็อกดาวน์ประเทศอย่างเด็ดขาดอย่างน้อย 14 วัน ประเด็นนี้หากดำเนินการต้องถามว่ารัฐจะดูแลกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งที่หาเช้ากินค่ำได้หรือไม่ ดังนั้นอีกเรื่องที่รัฐต้องดำเนินการโดยด่วน และวางแผนให้ดีคือการฉีดวัคซีนตามเป้าหมาย ให้ครอบคลุม หากวัคซีนตัวไหนเข้ามาเร็วก็ควรอัดการฉีดโดยด่วน ให้จบโดยเร็วที่สุด อยากให้ปรับลดขั้นตอนของบางหน่วยงาน เพื่อให้วัคซีนเข้ามากระจายในประเทศง่ายขึ้น และมีหลากหลายชนิด

“นอกจากนี้อยากให้เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ที่ทำการฉีด ควรอบรมเภสัชกร นักศึกษาแพทย์ นักศึกษาพยาบาล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ให้ฉีดวัคซีนเป็น เพื่อช่วยลดภาระภาครัฐ เพราะในการฉีดวัคซีนนั้น สถานที่ไม่น่ากังวลเท่ากับจำนวนวัคซีนที่ต้องพร้อม วิธีการฉีด จำนวนคนฉีด เพียงพอหรือไม่ เมื่อถึงวันที่ประเทศต้องฉีดวัคซีนให้ได้สูงถึง 3-5 แสนโดสต่อวัน”นายสุพันธุ์กล่าว

Advertisement

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีรัฐบาลเพิ่มออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) กู้เงิน 7 แสนล้านบาทนั้น ไม่ว่ารัฐบาลจะนำเงินไปใช้จ่ายส่วนไหน อย่างไร ควรเร่งดำเนินการเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นคือเงินทอน ปัญหาคอร์รัปชั่นไม่ควรมี เพราะโครงการที่ออกมาจากการใช้เงินกู้รอบแรก 1 ล้านล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่เป็นการเยียวยา และหลายโครงการมีเป้าหมายดี ทีมทำงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่พิจารณาการใช้เงินให้แต่ละโครงการถือว่าทำงานได้ดี พิจารณาเงินอย่างรอบคอบ แต่เมื่ออนุมัติแล้ว อย่าให้มีเงินตกหล่นระหว่างทางแล้วไปเข้ากระเป๋านักการเมือง เพราะไม่ได้เข้าระบบเศรษฐกิจ อันนี้ต้องระวังไม่ควรเกิดขึ้น อยากให้สังคมร่วมกันตรวจสอบ

“อยากให้ภาครัฐเร่งผลักดัน พ.ร.ก.เงินกู้ 7 แสนล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลมีเม็ดเงินเพียงพอสำหรับโครงการด้านสาธารณะสุข ด้านการเยียวยา ชดเชยให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง อยากเห็นกรอบการใช้เงินที่ถูกต้อง ไม่เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น”นายสุพันธุ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image