‘สุชาติ’ เผย เล็งออกกฎกระทรวง เอาผิดนายจ้างใช้แรงงานผิดกม. ยัน มีอำนาจตรวจโรงงาน
เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมศูนย์สั่งการขายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจังหวัด มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วม เป็นต้น
นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะแถลงให้ทราบกัน อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงแรงงานจะดูในเรื่องของสถานประกอบกิจการที่มีการนำแรงงานผิดกฎหมายเข้ามา ซึ่งที่ผ่านมาได้จับไปแล้วถึง 3 แสนกว่าคนใน 2 หมื่นกว่ากิจการ เรากำลังจะประชุมร่วมกับประธานหอการค้าไทย สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการ ก่อนที่จะออกประกาศกฎกระทรวงเพื่อขอความร่วมมือและเอาผิดกับบรรดานายจ้างทั้งหมดที่นำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย จะมีการกำหนดบทลงโทษชัดเจน โดยจะมีชุดเฉพาะกิจทั้งหมด 5 ชุดในการออกตรวจจับ ถ้าเจอก็จะดำเนินคดีให้สูงที่สุด ไม่มีละเว้นและรายงานผลออกมา ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายของ พล.อ.ประวิตร อยู่แล้ว โดยจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดจากนี้ไป แต่จะไม่มีการดำเนินการย้อนหลังกับโรงงานที่ทำความผิดก่อนหน้านี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการอย่างไรก็สถานประกอบการหรือเจ้าของโรงงานที่ไม่ยอมให้ตรวจ รมว.แรงงาน กล่าวว่า ตรวจได้ ตนมีอำนาจในการตรวจ ซึ่งโทษก็จะมีทั้งจำ ทั้งปรับ ส่วนบางโรงงานที่ปกปิดข้อมูลนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่เชิงปกปิดข้อมูล และมีไม่เยอะ อย่างบางเคสที่เราเจอก็จะมีการปรามเพื่อไม่ให้มีการสั่งออเดอร์แรงงานเข้ามา ถ้าสั่งมาก็จับโดยส่งข้อมูลให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี กระทรวงแรงงานจะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้กล่าวโทษ ส่วนการดำเนินคดีจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งมีโทษแรง อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานจะทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทางตำรวจซึ่งได้คุยกับผบ.ตร. แล้ว รวมถึงกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งความจริงก่อนหน้านี้เราก็ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มีสถานการณ์ของโควิดอยู่ จึงมีความเป็นห่วง
เมื่อถามถึงกรณีที่บุคคลากรด้านหน้าทั้งแพทย์ พยาบาล ทำงานเหนื่อนกันมาก แต่ด้านหลังกลับปล่อยให้มีการลักลอบเข้ามา นายสุชาติ กล่าวว่า ความจริงมันต้องดูว่าตัวเลขที่เข้ามามีจำนวนเท่าไหร่ ความจริงมันไม่ได้มากอย่างที่คิดกัน และการที่จะติดเชื้อก็ไม่ได้ติดเฉพาะจากคนต่างชาติ แต่ก็มีติดจากคนไทยด้วย เพราะฉะนั้นต้องบูรณาการร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวหนักใจกับโรงงานต่างๆ ที่มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า อย่าไปคิดว่าทุกโรงงานจะมีแรงงานต่างด้าว เพราะที่ไปตรวจ บางโรงงานก็ไม่มี หรืออย่างแคมป์คนงานที่อิตาเลียนไทยที่พบการติดเชื้อ ปรากฏว่าไม่ได้ติดจากแรงงานต่างด้าว แต่เป็นการติดจากคนไทยที่พบติดเชื้อถึง 15 คน อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังจะนำทีมเข้าไปฉีดวัคซีนในโรงงานที่มีคนงาน 500 คนขึ้นไป ส่วนโรงงานอื่นๆ นั้น บางครั้งหากจะเข้าไปฉีดก็ต้องดูด้วยว่าอยู่ใกล้โรงพยาบาลหรือไม่ เพราะหากฉีดแล้วเกิดผลกระทบอะไรขึ้นมาก็อาจจะลำบากในการนำตัวไปยังโรงพยาบาล
