ส.อ.ท. เตรียมซื้อ ‘ซิโนฟาร์ม’ จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ก่อนใคร ฉีดแรงงาน มิ.ย.นี้

ส.อ.ท. เตรียมซื้อ ‘ซิโนฟาร์ม’ จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ก่อนใคร ฉีดแรงงาน มิ.ย.นี้

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเด็นการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลอยากให้กระจายให้กับประชาชนโดยเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มที่ลงทะเบียนแล้ว เพราะการสร้างภูมิกันหมู่ด้วยการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงฉีดให้คยไทย70% ภายในปีนี้ยังคงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและขับเคลื่อนไปได้เช่นเดียวกับต่างประเทศ ในประเทศสำคัญที่มีการฉีดทั่วถึง ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ

สำหรับส.อ.ท.ยอมรับว่าเวลานี้คลายความกังวลอย่างมาก หลังจากที่ผ่านมาได้พยายามผลักดันวัคซีนทางเลือกมาตั้งแต่ต้น และไม่เคยถอดใจ เดินหน้ามาตลอด โดย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานส.อ.ท. ผม และผู้บริหารส.อ.ท. ได้ร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผลักดันให้เกิดการนำเข้าวัคซีนทางเลือก เพื่อคนไทยที่มีความต้องการและพร้อมจ่าย โดยมีการลงนามความร่วมมือในช่วงที่ผ่าน เวลานี้การที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ประสบความสำเร็จในการเตรียมนำเข้าวัคซีนยี่ห้อซิโนฟาร์ม จึงเป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับภาคอุตสาหกรรม เพราะที่ผ่านส.อ.ท.มีความต้องการวัคซีนทางเลือกเพื่อฉีดให้กับแรงงานในระบบประมาณ 1 ล้านคน เอกชนพร้อมจ่าย จึงได้ประสานกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในการจัดหา เบื้องต้นคาดว่าล็อตแรกที่จะนำเข้ามาประมาณ 1 ล้านโดส น่าจะแบ่งให้ส.อ.ท.ได้ประมาณ 3 แสนโดส ขณะที่ราคารวมค่าประกันและอื่นๆทั้งหมด น่าจะอยู่ที่โดสละประมาณ 20-30 เหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ความต้องการวัคซีนในภาคอุตสาหกรรมถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องยนต์หลักเครื่องยนต์เดียวในการผลัดดันเศรษฐกิจไทยมาจากการส่งออก ขณะที่ภาคการค้า บริการ ยังสะดุด ภาคการท่องเที่ยวหยุดนิ่ง ดังนั้นความหวังจึงกลับไปที่ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่เน้นผลิตเพื่อส่งออกจึงต้องระมัดระวังไม่ให้พนักงานโรงงานติดโควิด-19 หากติดเพียง1คน จะกระทบสายการผลิตทันที โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร อาหารแปรรูปมีความอ่อนไหวมาก บวกกับปัจจุบันการตรวจโรงงานจากลูกค้าต่างชาติก็ตั้งคำถามถึงการฉีดวัคซีน จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ผู้ประกอบการประเมินแล้วว่าแม้จะเสียเงินปริมาณมากกับวัคซีนทางเลือก แต่คุ้มค่ากว่าและปลอดภัยที่สุดในเวลานี้

Advertisement

สำหรับวัคซีนซิโนฟาร์ม ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ผลิตโดยรัฐวิสาหกิจของจีน ฉีดให้คนจีนแล้วคิดเป็นสัดส่วน 2ใน3 ของการฉีดทั้งประเทศ ทำให้เกิดความมั่นใจ เป็นวัคซีนที่ไทยควรนำเข้ามาเป็นวัคซีนทางเลือก และไทยควรหาวัคซีนหลากหลายยี่ห้อมาตุนไว้ให้มากที่สุดแล้วกระจายฉีดทั่วประเทศ เหลือดีกว่าขาด หลายประเทศตุนเผื่อความต้องการจริง 2-3 เท่า เพราะหากไม่ได้ใช้อาจนำมาใช้กระตุ้นการท่องเที่ยว ฉีดให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในไทย กำหนดวันกักตัวให้ชัดเจน หรืออาจนำวัคซีนที่เหลือไปใช้ทางการทูตช่วยเหลือประเทศที่ติดชายแดนไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image