| ผู้เขียน | วิณัฐฏาภรณ์ ศิริโสม |
|---|
จอดป้ายประชาชื่น : เปิดประเทศรอดหรือร่วง
ไทม์ไลน์เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำร่อง ภูเก็ตโมเดล จะเริ่มวันที่1 กรกฎาคมนี้ นับเวลาเหลือเพียง 1 เดือนเท่านั้น จะถึงกำหนดวันเปิดเมืองดังกล่าวแล้ว
เช็กความพร้อมพบว่า ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนให้คนภูเก็ตแล้วกว่า 3 แสนโดส เป้าหมายฉีด 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในภูเก็ต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้น ขณะนี้กำลังรอวัคซีนเข้ามาเพิ่มในเดือนมิถุนายนอีก 2.5 แสนโดส เป็นของแอสตร้าเซนเนก้า ที่ฉีดเพียง 1 โดส สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่แตกต่างจากการฉีดซิโนแวคครบ 2 โดส
ปัจจุบันขีดความสามารถในการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1.5 หมื่นคนต่อวัน สามารถเพิ่มกำลังการฉีดให้สูงขึ้นได้อีก ตอนนี้จึงขึ้นอยู่กับว่า วัคซีนจะเข้ามาได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้หรือไม่
ประเด็นนี้ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่า เปิดประเทศตามกำหนดแน่นอน เนื่องจากนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายสนับสนุน ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ยืนยันวัคซีนจะเข้ามาเพิ่ม บวกกับเอกชนภูเก็ตเพิ่มขีดความสามารถในการฉีดวัคซีนได้ จึงเชื่อมั่นว่า แม้จะเหลือเวลาเพียง 1 เดือน จะเปิดได้ตามกำหนดแน่นอน
แม้จะมีการยืนยันจากทั้งรัฐบาล แต่กรณีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ต้องเลื่อนการส่งมอบจากเดือนพฤษภาคมเป็นมิถุนายน ทำให้มีคำถามว่า หากวัคซีนเกิดติดปัญหา ไม่สามารถเข้ามาตามที่กำหนดอีก จะทำอย่างไร เนื่องจากหัวใจสำคัญในการเปิดภูเก็ต คือ การฉีดวัคซีนให้ครบ 70% ตอนนี้รอวัคซีนเข้ามาเพิ่มเท่านั้น
มีการประเมินเบื้องต้นว่า หากแผนเปิดภูเก็ตรับต่างชาติไม่สามารถทำได้จริง คาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่อการเปิดประเทศในเดือนกรกฎาคมที่จะสร้างรายได้รวมเฉพาะไตรมาส 3/2564 ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท หากเปิดไม่ได้ เท่ากับว่าเงินทั้งก้อนนี้จะหายไปทั้งหมด
คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ความหวังในการเปิดรับต่างชาตินำร่องในครั้งนี้ จะรอดหรือร่วงต่อไป
