แบงก์ชาติ เผยตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเมษาฯ หดเกือบทุกตัว ยกเว้นการส่งออกเติบโตสดใส

แบงก์ชาติ เผยตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเมษาฯ หดเกือบทุกตัว ยกเว้นการส่งออกเติบโตสดใส

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2564 เริ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกสามของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนลดลงจากเดือนก่อน -4.3% ในทุกหมวดการใช้จ่าย และมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง แม้มาตรการภาครัฐจะช่วยพยุงกำลังซื้อภาคครัวเรือนได้บางส่วน เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงจากเดือนก่อน -3.1% ตามการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ สอดคล้องกับความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดระลอกสาม อย่างไรก็ดี การลงทุนหมวดก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้นจากทั้งยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้าง

นางสาวชญาวดีกล่าวว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน 1.1% โดยอุปสงค์จากประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัวส่งผลให้การส่งออกปรับดีขึ้นในหลายหมวดสินค้า โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรและอุปกรณ์ สินค้าเกษตร และสินค้าเกษตรแปรรูป นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งนี้ การฟื้นตัวของภาคการส่งออกช่วยพยุงให้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมทรงตัวจากเดือนก่อนในช่วงที่อุปสงค์ในประเทศอ่อนแอ มูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามการนำเข้าหมวดเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ ขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางอื่น ๆ ทรงตัวในระดับสูงสอดคล้องกับการส่งออกที่ฟื้นตัว

นางสาวชญาวดีกล่าวว่า การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากรายจ่ายลงทุน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานสูงในระยะเดียวกันปีก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่ายภายหลัง พ.ร.บ. งบประมาณ ปี 2563 ประกาศใช้ อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐยังอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง สะท้อนถึงบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังมีอยู่

Advertisement

นางสาวชญาวดีกล่าวอีกว่า ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งขึ้น 3.41% เนื่องจากมาตรการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปาเพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนสิ้นสุดลง ประกอบกับราคาพลังงานที่ต่ำในระยะเดียวกันปีก่อน ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง และได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากการแพร่ระบาดระลอกสาม โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพอิสระ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลมากกว่าเดือนก่อนเล็กน้อย ติดลบ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยดุลการค้าเกินดุลลดลง จากมูลค่าการนำเข้าที่เร่งขึ้นมากกว่ามูลค่าการส่งออก ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลงกว่าสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่งส่วนใหญ่

นางสาวชญาวดีกล่าวปิดท้ายว่า ประเด็นที่จับตาคือการขาดแคลนปัจจัยการผลิต ที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต ภาคส่งออก ภาคก่อสร้าง 1.การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้มีการยกเลิกการสั่งซื้อ เพราสินค้ามีราคาแพงขึ้น โดยคาดว่าจะคลี่คลายลงในสิ้นปีนี้ 2.การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) โดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบ คาดว่าจะคลี่คลายลงถึงต้นปี 2565 3.การขาดแคลนเหล็ก เนื่องจากประเทศจีนสั่งปิดโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานสิ่งแวดล้อม ประกอบกับจำกัดการส่งออกเหล็ก คาดว่าจะคลี่คลายลงในไตรมาส 3/2564

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image