‘ธปท.’ โดดอุ้มลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์ คาดช่วยได้กว่าแสนราย มูลค่า 3.8 หมื่นล้าน หวังพยุงพ้นโควิด

‘ธปท.’ โดดอุ้มลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์ คาดช่วยได้กว่าแสนราย มูลค่า 3.8 หมื่นล้าน หวังพยุงพ้นโควิด

นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้จัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ขึ้น ทั้งที่นำมาใช้ประกอบอาชีพ และใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้สามารถประกอบอาชีพ หรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2564 โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีมูลค่า 2.5 ล้านล้านบาท มีปริมาณสูงเป็นอันดับ 3 ในสินเชื่อรายย่อยรวม มีลูกหนี้จำนวน 6.6 ล้านบัญชี รองจากอันดับ 2 คือสินเชื่อบัตรเครดิตส่วนบุคคล มีลูกหนี้ 50 ล้านบัญชี อันดับ 1 คือสินเชื่อบ้าน ซึ่งคาดว่ามหกรรมไกล่เกลี่ยครั้งนี้ จะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ได้ประมาณ 1 แสนบัญชี คิดเป็นมูลค่า 3.8 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยจากมูลค่าหนี้การเช่าซื้อรถยนต์ต่อรายอยู่ที่ 3.8 แสนบาท ประเมินจากการช่วยเหลือสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนออนไลน์ขอความช่วยเหลือกว่า 3 แสนคน จำนวน 6 แสนรายการ หรือเฉลี่ย 2 รายการต่อคน และได้รับการช่วยเหลือแล้ว 1.5 แสนบัญชี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8.6 พันล้านบาท

“การช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการทางการเงิน 12 แห่ง มีส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์รวมกันแล้วมากกว่า 65% ส่วนผู้ให้บริการที่อยู่นอกเหนือการกำกับดูแลของ ธปท. ก็ต้องทำตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ระยะที่ 3 อยู่แล้ว แต่การเข้าร่วมมหกรรมช่วยเหลือของผู้ให้บริการ เพื่อให้การช่วยเหลือรวดเร็วและชัดเจนมากขึ้น โดยหากลูกหนี้ที่เจ้าของหนี้ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของ ธปท. ต้องการความช่วยเหลือก็สามารถยื่นคำร้องขอเข้ามาได้ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ ทางด่วนแก้หนี้ได้ ซึ่ง ธปท.จะประสานและเจรจากับเจ้าของหนี้รายเหล่านั้นต่อไป แม้สถานการณ์การระบาดโควิด-19 จะยังไม่จบลง แต่ ธปท.ประเมินเบื้องต้นว่าจะไม่ต่ออายุโครงการไกล่เกลี้ยหนี้เพิ่มเติม หลังจากขยายเวลาให้ลงทะเบียนขอความช่วยเหลือได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เนื่องจากเจ้าหนี้ส่วนใหญ่สามารถใช้แนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้ที่อ้างอิงจากมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ที่จัดขึ้นได้ และต้องช่วยเหลือลูกหนี้จนถึงสิ้นปีนี้อยู่แล้ว” นางธัญญนิตย์กล่าว

Advertisement

นางธัญญนิตย์กล่าวว่า เมื่อมีหนี้เช่าซื้อในสินทรัพย์ต่างๆ ปัญหาหลักเป็นเรื่องค่าติดตามทวงถามหนี้ โดย ธปท.ได้ทำหนังสือเวียนขอความร่วมมือให้จัดเก็บค่าทวงหนี้งวดละ 100 บาท ไม่ว่าจะเป็นหนี้ประเภทใดก็ตาม แต่เนื่องจากธุรกิจเช่าซื้อไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท.ทั้งหมด ทำให้กลุ่มที่อยู่นอกเหนือการดูแลของ ธปท. มีการคิดค่าทวงหนี้สูงมากกว่าที่ควร ทำให้ปัญหาดังกล่าวถูกร้องเรียนเข้ามามาก สะท้อนจากสถิติร้องเรียนในปี 2562 อยู่ที่ 4,797 เรื่อง และปี 2563 อยู่ที่ 3,970 เรื่อง โดยมีเสียงสะท้อนว่า บางครั้งค่าทวงหนี้มีราคาสูงกว่าค่างวดที่ต้องจ่ายจริงอีก ทำให้ลูกหนี้ที่ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ เพราะอาจติดค่าใช้จ่ายอื่นจนไปไม่ไหว หนี้นั้นจะกลายเป็นหนี้เสียไป แม้ปัจจุบันยังไม่มีเกณฑ์กำหนดออกมาชัดเจนว่าค่าทวงหนี้ควรอยู่ในอัตราเท่าใด มีเพียงกำหนดเวลาที่เหมาะสมในการทวงหนี้ ทวงได้กี่ครั้งต่อวัน แต่ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังผลักดันและดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ เพื่อผ่อนภาระของลูกหนี้เบื้องต้น ตัวอย่างกรณีเจ้าของรถแท็กซี่ ที่ถูกยึดรถเพราะขาดส่งค่างวด 6 เดือน หลังจากการระบาดโควิดทำให้รายได้หายไป ทั้งที่จริงผ่อนค่างวดมากว่า 4 ปีแล้ว ซึ่งเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะผ่อนจ่ายครบทั้งหมด แต่ต้องถูกยึดรถไป ซึ่งมองว่าอาจไม่ยุติธรรมกับลูกหนี้มากนัก โดยในระยะถัดไป ธปท.จะพิจารณาการดูแลออกมาเพิ่มเติม ว่าลูกหนี้ผ่อนชำระได้กี่งวดแล้ว ใกล้ครบหรือยัง และต้องขาดผ่อนกี่งวดจึงสามารถยึดรถได้

นางธัญญนิตย์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบปัญหาอีกเรื่องเป็นการยึดรถแล้วขายทอดตลาด ซึ่งจะประเมินราคาขายรวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาทิ ยอดหนี้เช่าซื้อคงเหลือ ค่าทำเนียมทวงถามหนี้ ทำให้เมื่อขายรถได้แล้ว นำราคาที่มาหักลบกับมูลค่าหนี้ที่เหลือ แต่เพราะมูลหนี้ที่ตั้งไว้สูงจากการรวมค่าใช้จ่ายอื่นเข้าด้วยกัน ทำให้ยอดหนี้คงเหลือที่ต้องชำระเพิ่มเติม โตเกินจริง แต่เมื่อมากำหนดแนวทางตามคำพิพากษาของศาลแล้ว จะได้มูลค่าหนี้ที่สะท้อนความจริงและเป็นธรรมมากขึ้น ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว และพยายามผลักดันให้ผู้ประกอบการนำแนวทางนี้ไปใช้ในการประเมินราคาขายทอดตลอด โดยแนวทางดังกล่าว ธปท.ได้หารือร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และได้เปิดเผยเพื่อประชาสัมพันธ์ไว้บนเว็บไซต์ของทั้ง 3 หน่วยงานแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image