นวลพรรณ เตือน รัฐบาล เลิกแทงม้าตัวเดียว โอดรับเผือกร้อน ชี้ ฉีดวัคซีนหรือไม่เป็นเรื่องสิทธิฯ

“แป้ง-นวลพรรณ” เตือนรัฐบาล “อย่าแทงม้าตัวเดียว” โอดสยามไบโอไซเอนซ์รับ “เผือกร้อน-ทัวร์ลง” ชี้ควรมีวัคซีนทางเลือกหลากหลายยี่ห้อ

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ระบุว่า สยามไบโอไซเอนซ์ทำสัญญากับรับจ้างผลิตให้กับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ขณะที่สัญญาระหว่างรัฐบาลกับสยามไบโอไซเอนซ์เป็นอีกสัญญาหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา สยามไบโอไซเอนซ์ได้ผลิตและส่งมอบวัคซีนล็อตแรกให้แอสตร้าแล้ว 1.8 ล้านโดส

ขอยืนยันว่าวัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลทั้งในไทย ห้องปฏิบัติการในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เป็นการยืนยันว่าวัคซีนมีคุณภาพเทียบเท่ากับวัคซีนแอสตร้าฯที่ผลิตในฐานผลิตอื่นๆ ในโลกเป็นไปตามแผนทั้งหมดสำหรับกรณีที่มีรายงานว่าผลิตแล้วไม่ผ่านคุณภาพ มีการรับพนักงานใหม่นั้นเป็นเฟคนิวส์ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานสากล

โดยรัฐบาลสั่งซื้อเอาไว้ 26 ล้านโดส และ 35 ล้านโดส โดยจะส่งให้ไทย 6 ล้านโดสในเดือนแรก และเดือนถัดไปเดือนละ 10 ล้านโดส และ 5 ล้านโดสในล็อตสุดท้าย ยืนยันว่าสยามไบโอไซเอนซ์ดำเนินการเป็นไปตามสัญญาที่ทำไว้กับแอสตร้าฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ใช้เวลาผลิต 6 เดือน สามารถส่งมอบได้ตามเวลา สัญญากำหนดภายในเดือนมิถุนายนล็อตแรกและเราเริ่มทยอยส่งมอบ

นางนวลพรรณ กล่าวถึงกรณีข้อสงสัยว่าคนไทยจะได้ฉีดตามจำนวนที่แอสตร้าฯทำข้อตกลงกับรัฐบาลไทยได้หรือไม่ ว่า เรื่องนี้โดน ทัวร์ลงแรง อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าสยามไบโอไซเอนซ์ผลิตได้ในจำนวนที่เป็นที่พึงพอใจกับผู้ว่าจ้างและจะทยอยส่งให้กับแอสตร้าฯในเดือนนี้ ส่วนจะผลิตได้เท่ากับที่รัฐบาลไทยสั่งซื้อหรือไม่ นั่นเป็นเรื่องของรัฐบาลไทยกับแอสตร้าฯในสัญญาระบุอีกว่า วัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์เป็นสิทธิของแอสตร้าฯและมีสิทธิส่งออกวัคซีนเหล่านี้ไปยัง 8 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

Advertisement

“การเลือกแอสตร้าฯเป็นการแทงม้าตัวเดียว รัฐบาลควรจะสั่งซื้อวัคซีนหลายทางเลือกให้ประชาชนเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องสุขภาพและชีวิตของประชาชน กรณีที่พูดถึงการ แทงม้าตัวเดียวและเป็นสยามไบโอไซเอนซ์นั้นก็กลายเป็น pain point ของสยามไบโอไซเอนซ์ และคนทำงานเช่นกัน” นางนวลพรรณกล่าว

ต่อมานางนวลพรรณให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงกรณีเรื่องงบประมาณจำนวน 600 ล้านบาท ที่รัฐบาลไทยมอบให้สยามไบโอไซเอนซ์ว่า ไปใช้เป็นทุนในการพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยระบุว่าเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 สิงหาคม 2563 ที่ให้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท ในการพัฒนา วิจัย และผลิตวัคซีน คือให้สยามไบโอไซเอนซ์ 600 ล้านบาท

Advertisement

จุฬาฯ ได้ไป 400 ล้านบาท สยามไบโอไซเอนซ์ได้ระบุลงในสัญญากับรัฐบาลไทยว่าสยามไบโอไซเอนซ์จะคืนเงินจำนวน 600 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลก็ต่อเมื่อผลิตวัคซีนจนครบรอบการผลิต และมีการพิสูจน์ทราบได้ว่าผลิตวัคซีนสำเร็จจริง โดยสยามไบโอไซเอนซ์จะคืนเงินในรูปของวัคซีน

“ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการแทงม้าตัวเดียว ประชาชนคนไทยควรมีวัคซีนทางเลือกหลากหลายยี่ห้อ แต่การบอกว่าสยามไบโอไซเอนซ์เป็นม้าตัวเดียวที่รัฐบาลแทงนั้นเหมือนเป็นการเอาเผือกร้อนมาโยนลงที่สยามไบโอไซเอนซ์ เพียงที่เดียว เพราะจริงๆ แล้วสยามไบโอไซเอนซ์เป็นเพียงบริษัทเอกชน ที่รับจ้างผลิตวัคซีนให้แอสตร้าเซนเนก้าเท่านั้น

อันนี้พูดแทนหัวใจของประชาชนคนไทยว่าคุณต้องเลิกคำว่าแทงม้าตัวเดียว เพราะจริงๆ คุณไม่ควรแทงม้าตัวเดียว คุณควรเปิดทางเลือกวัคซีนให้กับประชาชนที่อยากจะใช้วัคซีนที่แตกต่างกัน เรื่องวัคซีนเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน คือหนึ่ง คุณจะอยากฉีดหรือไม่อยากฉีดเป็นเรื่องของคุณ กับสอง คุณมีวัคซีนที่พิสูจน์ทราบโดย WHO หลายตัวแล้ว ดังนั้นก็คือคำตอบของแป้งมันคือ 2 หมวกด้วยกัน” นางนวลพรรณ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image